สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. 64 และแนวโน้ม 6-10 ก.ย. 64

150

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงาน ณ วันที่ 5 ก.ย. 64 การผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติใน Gulf of Mexico ยังหยุดดำเนินการอยู่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 1,900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (คิดเป็น 88% และ 83% ของกำลังการผลิตทั้งหมดใน Gulf of Mexico) แม้พายุเฮอริเคน Ida พัดผ่านไปแล้ว ทั้งนี้บริษัท Energy Aspects คาดการณ์ว่าโรงกลั่นจะกลับมาผลิตได้ตามปกติในอีกสองสัปดาห์
  • Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ส.ค. 64 ลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 425.4 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ระดับ 6%
  • Baker Hughes Inc. รายงานจำนวน Rig ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย. 64 ลดลง 16 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 394 แท่น

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • ที่ประชุม OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิตตามเดิมที่วางไว้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 โดยเป็นการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเดือนละ 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 64
  • Morgan Stanley ปรับลดคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (GDP) ในไตรมาส 3/64 เพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่คงคาดการณ์ในไตรมาส 4/64 ที่ 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้า
  • การระบาดของ COVID-19 ที่เมือง Nanjing ประเทศจีนแม้ทางการสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แต่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจจีน อาทิ Markit/Caixin รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing Purchasing Managers’ Index-PMI) เดือน ส.ค. 64 ลดลง 1.1 จุด จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 49.2 จุด ลดลงครั้งแรกตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Non-Manufacturing PMI) เดือน ส.ค. 64 ลดลง 8.2 จุด จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 46.7 จุด ทั้งนี้ ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด บ่งชี้ถึงการหดตัวตัวของภาคการผลิต

แนวโน้มราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลง จากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน Ida ที่แม้ผ่านไปแล้ว โดยการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติใน Gulf of Mexico ยังหยุดดำเนินการอยู่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 1,900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (คิดเป็น 88% และ 83% ของกำลังการผลิตทั้งหมดใน Gulf of Mexico) ทั้งนี้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติบริเวณ Gulf of Mexico ที่หยุดทำงานในขณะนี้ คิดเป็น 15.6% และ 4.5% ของปริมาณการผลิตทั้งหมดในสหรัฐฯ ตามลำดับ และปริมาณสำรองน้ำมันในสหรัฐและกลุ่มประเทศ OECD ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม OPEC+ จะเพิ่มปริมาณการผลิตเดือนละ 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือน ธ.ค. 64 ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 64

ด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนในตลาดยังคงวิตกกังวลเรื่องการทบทวนปรับแผนการลดมารตรการ QE ในการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 9 ก.ย. 64 ภายหลัง Eurostat รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index-CPI) ซึ่งใช้ชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) ของกลุ่มยูโรโซน (19 ประเทศ) ในเดือน ส.ค. 64 เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนหน้า

ให้ติดตามสถานการณ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและกลุ่ม Houthi ของเยเมน หลังซาอุดีอาระเบียสกัดกั้นขีปนาวุธนำวิถีและโดรนติดอาวุธที่ยิงโดยกลุ่ม Houthi เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. 64 โดยกล่าวว่ามุ่งเป้าไปที่โรงงานของ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียที่ Ras Tanura โดยกลุ่ม Houthi ซึ่งขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบียตั้งแต่ปี 2558 อ้างเป็นผู้โจมตีครั้งนี้ ด้วยโดรนติดอาวุธ 8 ลำและขีปนาวุธ 1 ลูก กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าขีปนาวุธถูกสกัดกั้นบริเวณชานเมือง Dammam โดยเด็ก 2 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ และสร้างความเสียหายเล็กน้อยให้กับบ้าน 14 หลัง

ในทางเทคนิคราคาน้ำมัน ICE Brent ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 70 ถึง 75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp