CPANEL APM FSS โรดโชว์หุ้น IPO ผ่านระบบออนไลน์ ให้ข้อมูลแนวโน้มการเติบโต

320

มิติหุ้น – นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) เปิดเผยว่า CPANEL พร้อมด้วยบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) แกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ร่วมโรดโชว์ให้ข้อมูลแนะนำบริษัทกับนักลงทุน ในรูปแบบออนไลน์ (Facebook Live) ช่องทาง FB: CPanel แผ่นพื้นและผนังคอนกรีตสำเร็จรูป FB: APM Channel และ FB : Asset Pro Management เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

CPANEL เป็นที่รู้จักในวงการอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง เนื่องจาก Precast Concrete เป็นวัสดุที่ช่วยแก้ปัญหางานก่อสร้าง ลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ แม้ขณะนี้จะยังมีสัดส่วนการใช้งานไม่มากนัก แต่จากความรวดเร็วและลดขั้นตอนการก่อสร้าง รวมถึงลดจำนวนแรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนรวมของโครงการที่ใช้ Precast Concrete ลดลงโดยเฉลี่ย 15% และลดในส่วนของต้นทุนแรงงานประมาณ 50% ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้รับเหมาก่อสร้างนิยมหันมาเลือกใช้ Precast Concrete มากขึ้น บริษัทจึงเตรียมระดมทุนเพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยระบบการผลิต Fully Automated เพื่อขยายธุรกิจ รองรับกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในอนาคต ทั้งนี้ การให้ข้อมูลในงานโรดโชว์ เพื่อให้นักลงทุนเห็นโอกาสทางธุรกิจ    ที่ยังสามารถเติบโตได้” นายชาคริต กล่าว

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ CPANEL ได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 39.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ บาท ซึ่งมีทุนจดทะเบียนจำนวน 150 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 110.50 ล้านบาท

ทั้งนี้ เชื่อว่าการโรดโชว์ให้ข้อมูลแก่นักลงทุน จะมีกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจาก CPANEL เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด Precast Concrete และที่ผ่านมาบริษัทสามารถเติบโตได้แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างดี ในขณะที่สินค้ายังคงมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากลที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน อีกทั้ง บริษัทรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้จำหน่ายวัตถุดิบ และลูกค้าที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำมาเป็นเวลานาน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

“มั่นใจว่า CPANEL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง และมีแนวโน้มเข้ามาทดแทนการก่อสร้างแบบเดิม จึงมีโอกาสเติบโตจากความต้องการที่ทยอยเพิ่มขึ้น อีกทั้งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีความสามารถการทำกำไรที่ดี และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาด อีกทั้งมีโอกาสขยายธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสมศักดิ์ กล่าว