ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้แม้ในภาพรวมดัชนีเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. นี้ ว่าจะมีการประกาศปรับลดวงเงิน QE หรือไม่ แต่หากปรับโฟกัสไปที่หุ้นไซส์กลาง-เล็กบางตัว จะพบมีการเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในหุ้นที่ราคาค่อนข้างต่ำ ระหว่างวันจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เหวี่ยงตัว ขึ้น-ลง อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ในมุมมองของ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุว่า การ “ซื้อเก็งกำไร” ยังมีให้เห็นในหุ้นรายตัว ที่ราคามีการปรับฐานลงมาก่อนหน้า หรือ หุ้นที่มี indicator หรือ story ในทางบวก รวมไปถึงการคาดการณ์งบไตรมาส 3/64 ดังนั้นจึงได้ไปศึกษาหาหุ้นใน SET100 ที่ปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดที่ 1 เดือน SET +4.9% โดยหุ้นที่น่าสนใจ ที่ยังมี upside 28% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ย (TP) ของ Bloomberg consensus ประกอบไปด้วย
BCH (-13.3% ใน 1 เดือน) มี upside 28% จากTP ที่ 28.00 บาท
CHG (-13.2%) มี upside 24% จาก TP ที่ 4.43 บาท
KCE (-7.5%) มี upside 14% จาก TP ที่ 90.75 บาท
DOHOME (-6.5%) มี upside 33% จาก TP ที่ 33.24 บาท
OSP (-4.1%) มี upside 17% จาก TP ที่ 40.50 บาท
CBG (-4.1%) มี upside 16% จาก TP ที่ 150.60 บาท
BGRIM (-2.8%) มี upside 29% จาก TP ที่ 55.44 บาท
BDMS (-2.6%) มี upside 17% จาก TP ที่ 26.08 บาท
TU (-1.8%) มี upside 11% จาก TP ที่ 24.02 บาท
PTTGC (-1.2%) มี upside 21% จาก TP ที่ 73.50 บาท
GLOBAL (-0.5%) มี upside 22% จาก TP ที่ 26.00 บาท
HANA (-0%) มี upside 9% จาก TP ที่ 80.57 บาท
และ SPALI (+0.5%) มี upside 20% จาก TP ที่ 24.65 บาท
อย่างไรก็ดี หากมาดูหุ้นใน SET50 ที่ถือว่าเป็นหุ้นใหญ่เกรด A ว่าเป็นอย่างไร ในรูป (ด้านล่าง)ได้แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (YTD) และค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า เพื่อดูความถูกความแพง หากพิจารณาผ่านการเคลื่อนไหนของราคาหุ้น
นอกจากนี้ พบว่าหุ้นในกลุ่มที่ยังติดลบ (รูปด้านล่าง) จะเป็นท่องเที่ยวใหญ่ ธนาคาร อาหาร พลังงาน ค้าปลีก และผลิตไฟฟ้า ส่วนที่ขึ้นแรงๆ จะเป็นกลุ่ม ค้าปลีกเล็ก ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์เกษตร โรงพยาบาล แต่หากมาดูว่ากลุ่มไหนยังเล่นที่ P/E ไม่แพง จะพบว่าหุ้นที่เล่น P/E 10 เท่าต้นๆ จะกระจุก เป็นพลังงาน ธนาคาร นอกนั้นเป็น ปูน ผลิตอาหาร ปิโตรเคมี เป็นส่วนใหญ่
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
