PRIME ลุยโรงไฟฟ้าข้ามชาติ กำไรปี64นิวไฮดันเป้า 3.40 บ.

1623

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ หรือ PRIME ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย “นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี (64-68) มีโรงไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 1,000 MW ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยการ “ซื้อกิจการ-ร่วมทุน-ขยายโครงการ” ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา อุซเบกิสถาน และ ไต้หวัน

ลุยโครงการพลังงานไต้หวัน

ล่าสุด บริษัทเตรียมความพร้อมในการขยายโครงการในไต้หวัน เช่น โครงการ Xi Tong ซึ่งจะทำให้กิจการของบริษัทในไต้หวันเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด PRIME มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้ร่วมทุนทั้งในไทย ญี่ปุ่น ไตหวัน และกัมพูชา มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 323.24 MW ซึ่งเป็นกำลังผลิตติดตั้งที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 204.34 MW

ส่วน“ธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์  บนหลังคา (Solar Rooftop EPC)” ล่าสุดมีลูกค้าเข้ามาเจรจาเป็นจำนวนมาก โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการดี มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง และระบบ Solar Rooftop จะช่วยลดค่าไฟซึ่งเป็นต้นทุนของธุรกิจได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

ผนึกจีนหนุนผลงานโตแกร่ง

ขณะที่ “ธุรกิจจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงาน” มั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทยังได้ร่วมมือกับบริษัท JinkoSolar Holding Co., Ltd. จากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทเป็นผู้จำหน่ายสินค้าจาก JinkoSolar ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการทำให้มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง

ด้าน “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม”  เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/64 จะเติบโตต่อเนื่อง และจะเติบโตในทุกๆไตรมาส เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานในมือ และ การเจรจาโครงการใหม่ๆเร็วๆนี้ ประกอบกับธุรกิจในส่วนอื่นๆก็เติบโตได้ดี โดยทั้งปี 64  มั่นใจจะเติบโตได้ดีกว่าปีก่อนแน่นอน

กำไรนิวไฮ469ล.-เป้า3.40บ.

“บล.เคทีบีเอสที” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น PRIME ปัจจุบันอยู่ระหว่างขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าจากเดิมที่มีเพียงโซลาร์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานน้ำขนาดเล็กและพลังงานลม คาดจะเห็นความชัดเจนเร็วๆนี้

ดังนั้นจากโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่สร้างผลกำไรต่อเนื่อง และธุรกิจอื่นๆที่แข็งแกร่ง ทำให้ทั้งปี  64 คาดกำไรปกติที่ 469 ล้านบาท เติบโต 42% จากปีก่อน และปี 65 กำไรสุทธิที่ 606 ล้านบาท เติบโต 23%โดยมีโอกาสปรับประมาณการขึ้นหากรวมโครงการใหม่ในไต้หวันขนาด 20MW เข้า (รอความคืบหน้า PPA และความชัดเจนเรื่อง COD) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.40 บาท

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp