กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม  –  เปิดประเทศรับ FDI

188

ทางหลักทรัพย์กรุงศรีคาดประเทศไทยจะเปิดประเทศใน 4Q21 ซึ่งจะปลดล็อคอุปสงค์คงค้างในที่ดินนิคมอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ, ชลบุรีและระยองอาจจะเปิดเมืองใน 4Q21 จากสมมติฐานอัตราการฉีดวัคซีน 14 วันย้อนหลัง  จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสในกทม. ชลบุรีและระยองจะแตะระดับ 70% ภายในกลางต.ค., กลางพ.ย. และปลายพ.ย. ตามลำดับ ส่วนในภาพรวมของประเทศไทย จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสจะแตะระดับ 70% ภายในปลายธ.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการกักตัวใน 1Q22 รวมถึงจำนวนวัคซีนใน 4Q จะมีเพียงพอสำหรับการฉีด 23-30 ล้านโดสต่อเดือน ปัจจัยเหล่านี้จะปูทางสู่การปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของทรัพย์สินอุตสาหกรรม สะท้อนจากจำนวนการขอส่งเสริมบีโอไอเพิ่มขึ้น 158% yoy เป็น 3.8 แสนลบ.ใน 1H เราคาดยอดขายที่ดินรวมจะฟื้นตัว 153% yoy เป็น 2,067 ไร่ในปีนี้และเติบโต 35% เป็น 2,791 ไร่ในปีหน้า

 

ขณะเดียวกันได้รับอนิสงค์มาตรการรัฐบาลจะช่วยสนับสนุน – ล่าสุด ครม.มีคำสั่งให้บีโอไอดึงเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากขึ้น โดยมีมาตรการที่ช่วยหนุนดังนี้ i) บีโอไอเพิ่มสิทธิประโยชน์และขยายการส่งเสริมครอบคลุมมากขึ้น (Fig.17); ii) ความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน; และ iii) การปรับปรุงที่จะเพิ่มอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ (easing of doing business) ของไทยให้ติด 10 อันดับแรกในปีหน้า

 

ได้ประโยชน์จากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และ RCEP – สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนยุติเพียงชั่วคราว และอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้งได้ ในปี 2019 การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนลดลงอย่างมาก แต่การค้าของสองประเทศนี้กับ ASEAN เร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ RCEP ที่จะมีผลบังคับในเร็ว ๆ นี้ จะเชื่อมห่วงโซ่มูลค่าของประเทศสมาชิก และเพิ่ม FDI ในภูมิภาค บริษัทจีนจะย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศจีน และ FDI จะหันเหออกจากจีน

 

ผลกระทบจากการที่ประเทศจีนจะเข้าร่วม CPTPP – หากจีนเข้าร่วม CPTPP และประเทศไทยเข้าร่วม CPTPP ด้วย GDP ของประเทศไทยจะเพิ่ม 3.35% หากประเทศไทยไม่เข้าร่วม GDP จะลดลง 0.03% อ้างอิงการศึกษาของ Billinger & Co (Thailand), เวียดนามจะได้ประโยชน์มากที่สุดจาก CPTPP การรับสมาชิกใหม่ต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกทุกประเทศ ดังนั้นการเข้าร่วมเร็วจึงดีกว่า  แต่จีนมีความขัดแย้งทางการค้ากับออสเตรเลีย, ข้อพิพาททางดินแดนกับเวียดนาม และต้องปฏิรูปภายในเพื่อให้มีคุณสมบัติ จึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง  อย่างไรก็ตาม AMATA (ราคาเป้าหมาย 23.5 บ) และ WHA (ราคาเป้าหมาย 4.8 บ) จะได้ประโยชน์จาก FDI ที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม

 

Disclaimer:  เอกสาร/รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บมจ.หลักทรัพย์กรุงศรี มิอาจรับรองความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของผู้จัดทำเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่างๆที่ปรากฏในเอกสาร/รายงานฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าดังนั้นนักลงทุนโปรดใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการพิจารณาการลงทุน

 

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp