มิติหุ้น – บล.บัวหลวง ประสานเสียง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA ) เคาะเป้าหมายราคาเหมาะสม 13.36 – 15.00 บาท/หุ้น โดยประเมินกำไรปี 2565 เติบโต 478% แตะ 877 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้น 114% สู่ระดับ 6 พันล้านบาท หลังทยอยรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาฯ จากยอดโอนโครงการบ้านหรู มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท และคอนโดฯใจกลางเมือง มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมด้วยกลยุทธ์สร้างฐานรายได้ประจำ ด้วยแผนการขยายธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหารที่ชัดเจนในระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้นบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 15 บาท อิง PER ที่ 20 เท่า เทียบเคียงค่าเฉลี่ย ระยะยาวของกลุ่มอสังหาฯ และโรงแรม-ร้านอาหาร เหตุผลที่เรา Blend PE ของทั้ง 3 กลุ่ม เข้าไว้ด้วยกันเพราะมองว่าการซื้อหุ้น SA เสมือนลงทุน MINT ในยุคเริ่มต้นธุรกิจ เนื่องจากบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจโรงแรม และอาหารที่ชัดเจนในระยะยาว ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากธุรกิจอสังหาฯ อีกทั้งช่วยเปิด Upside ต่อกำไรในอนาคต และเชื่อว่าตลาดให้มูลค่าหุ้น SA บน PER ที่สูงกว่ากลุ่มอสังหาฯ ทั่วไป
โดยคาดกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 152 ล้านบาท (ลดลง 72% จากปีก่อน) และคาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/64 สะท้อนผลกระทบโควิด19 โดยกลยุทธ์ของ SA ไม่เน้นการลดราคาเพื่อล้างสต็อก เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรและ “Brand value” และคาดว่ากำไรปี 2565 จะกลับมาเติบโต 478% สู่ 877 ล้านบาท จากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 114% สู่ระดับ 6 ,000 ล้านบาท และสมมติฐานอัตรากำไรสุทธิอนุรักษ์นิยมที่ 15% (บริษัทตั้งเป้าที่ 15-20%) โดยคาดกำลังซื้อชาวต่างชาติกลับมาหลังสถานการณ์ฯ คลี่คลาย อีกทั้งจะเริ่มโอน “บ้านเดี่ยวหรูในราคาที่จับต้องได้” แห่งใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังปี 2565 และคอนโด Landmark @MRTA Station มูลค่า 11,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2565
สำหรับธุรกิจโรงแรม SA ตั้งเป้าขยายจำนวนห้องพักจาก 284 ห้องในปี 2564 สู่ 974 ห้องให้ปี 2567 หนุนรายได้บริการโรงแรมเพิ่มขึ้นจากราว 18.8 ล้านบาทในปีนี้ ไปสู่ 345 ล้านบาทในปี 2567 (เติบโต 18 เท่าตัว) ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีแผนขยาย “Cloud Kitchen” หรือ “ครัวกลาง” โดยเริ่มจาก 20 สาขาในปีนี้ ขยายเป็น 200 สาขาในปี 2567 รายได้เติบโตเฉลี่ย 115%ต่อปี CAGR ตัวแปรเร่งความสำเร็จ คือ โอกาส Synergy กับ W ที่ผู้บริหาร SA ได้เข้าถือหุ้น ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายร้านอาหารดัง จะช่วยติดปีกการเติบโตของธุรกิจครัวกลาง และทำให้ตลาดให้มูลค่าหุ้น SA มากขึ้นในอนาคต
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้นบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA โดยระบุว่าคาดกำไรปี 2565 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจาก 1) Backlog รอรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 คาดที่ 3,500ล้านบาท 2) เป้าหมายการระบายสินค้าคงคลังประเภทพร้อมอยู่ (Ready-to-move) ที่ราว 400 – 1,000 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งมองว่าหากสถานการณ์ COVID-19 ไม่กลับมารุนแรงอีกมีโอกาสสูงที่รายได้ส่วนนี้จะอยู่ที่กรอบบนของคาดการณ์ที่ราว 1,000 ล้านบาทต่อไตรมาสหรือ 4,000 ล้านบาทในปี 2565 ซึ่งมีจุดแข็งที่เดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้าในราคาต่อตารางเมตรต่ำกว่าคู่แข่งราว 15-20% จึงมีโอกาสสูงที่จะทำได้ตามเป้า 3) แผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564-65 จำนวน 2 โครงการรวมมูลค่าราว 5,500-6,000 ล้านบาท คาดเป็นปัจจัยหนุนรายได้ในปี 2565
4) แผนการขยายตัวของธุรกิจโรงแรมจากปัจจุบัน 284 Keys เป็น 426 Keys คาดหนุนรายได้ราว 100 ล้านบาทในปี 2565 และ 5) การเพิ่มสาขาของธุรกิจ Cloud Kitchen จากปัจจุบัน 5 สาขาเป็น 75 สาขาภายในสิ้นปี 2565 พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจ F&B ในปี 2565 ที่ 180 ล้านบาท อิงสมมติฐานข้างต้น รายได้รวมจะอยู่ที่ 5.9–8.3 พันล้านบาท บนสมมติฐานโครงการแนวราบโอนได้เพียง 10% เทียบกับเป้าหมายรายได้ของบริษัทที่ 4,000 พันล้านบาท ซึ่งเรามองว่านั่นเป็นเป้าหมายในกรณี Worse case ที่ COVID-19 ไม่คลี่คลาย
ทั้งนี้ อิงอัตรากำไรสุทธิอย่างอนุรักษ์นิยมที่ระดับ 16.5% (อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยในปี 2562-63 อยู่ที่ 17.6%) กำไรปกติปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 908 – 1,073 ล้านบาท คิดเป็น EPS2565 ที่ 0.77 – 0.90 บาทต่อหุ้น อิง PER2565 ที่ระดับ 14x, 16x และ 18x เทียบเท่า -1.0SD, ค่าเฉลี่ย และ +1.0 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีของบริษัท ราคาเหมาะสมเบื้องต้น ณ สิ้นปี 2565 จะอยู่ที่ 10.72-16.28 บาท มีค่ากลางที่ 13.36 บาท