จับตาบิ๊กดีล “MAKRO” รับโอนกิจการ “กลุ่มโลตัสส์” เพิ่มโอกาสขยายตลาดในภูมิภาคเอเซีย

1295

 

มิติหุ้น-จากมติบอร์ดของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) อนุมัติการรับโอนกิจการทั้งหมดของกลุ่มโลตัสส์ โดยบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO หรือ บริษัทฯ) เป็นผู้รับโอนกิจการบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด หรือ CPRH มูลค่าราว 2.18 แสนล้านบาท ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ CPALL เพื่อขอมติในวันที่ 12 ตุลาคม 2564

ซึ่ง CPRH เป็น Investment Holding Company ถือหุ้นในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ CPRD ลงทุนในบริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด สัดส่วน 99.99% ผ่านบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus’sในไทย และ Lotus’s Stores (Malaysia) Sdn.Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก Lotus’s ในมาเลเซีย ซึ่งทั้งหมดเรียกว่า “กลุ่มโลตัสส์” สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 CPRD มีรายได้รวมเสมือน (pro forma) จำนวน 208,648 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมเสมือน (pro forma) 406,640 ล้านบาท

เพิ่มทุนรวมไม่เกิน 6,372,323,500 หุ้น

โดย MAKRO จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 2,400,000,000 บาท เป็น 5,586,161,750 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 6,372,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) จำนวน ไม่เกิน 5,010,323,500 หุ้น เพื่อตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด ที่ราคาหุ้นละ 43.50 บาท หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ให้แก่ CPRH เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด

และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering หรือ PO) จำนวนไม่เกิน 1,362,000,000 หุ้น โดยอาจพิจารณาจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (ยกเว้น CPALL และบริษัทย่อยของ CPALL) ผู้ถือหุ้นเดิมของ CPALL (ยกเว้นกลุ่ม CPG ตามแบบ 56-1 ประจำปี 2563 ของ CPALL) และผู้ถือหุ้นเดิมของ CPF (ยกเว้นกลุ่ม CPG ตามแบบ 56-1 ประจำปี 2563 ของ CPF) รวมทั้งอาจพิจารณาจัดสรรกรีนชูอีกไม่เกิน 340.5 ล้านหุ้น ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติ วันที่ 12 ตุลาคม 2564 เช่นกัน เบื้องต้นหากได้การอนุมัติจากผู้ถือหุ้น คาดว่ากระบวนการรับโอนกิจการจะแล้วเสร็จภายใน 1 ถึง 3 สัปดาห์นับจากวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ MAKRO และ CPALL มีมติอนุมัติ

ทั้งนี้ จะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น MAKRO จากผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นที่เป็นกลุ่มเดียวกันตามมาตรา 258 และมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น MAKRO  โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จํากัด หรือ CPH และ บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จํากัด หรือ CPM จำนวน 332,098,500 หุ้นสัดส่วน 3.39% ที่ราคาเสนอซื้อ 43.50 บาท

โดยภายหลังธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดและธุรกรรมการจัดสรรหุ้นเพื่อตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด โครงสร้างผู้ถือหุ้นใน MAKRO จะมีการเปลี่ยนแปลงไป โดย สัดส่วนการถือหุ้นของ CPALL จะเปลี่ยนแปลงจาก 93.08 % เป็น 65.97 %, CPH จะถือหุ้นสัดส่วนเป็น 20.43 % จากเดิมที่ไม่ได้ถือหุ้นใน MAKRO และ CPM  ถือหุ้นสัดส่วน 10.21% จากเดิมที่ไม่ได้ถือหุ้นใน MAKRO

ก้าวสู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกภูมิภาคเอเชีย

ดีลนี้จะเพิ่มโอกาสขยายตลาดต่างประเทศให้กับ MAKRO ที่สามารถผนึกกำลังกับกลุ่มโลตัสส์ ผสมผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (offline and online หรือ O2O) เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าจากหลากหลายช่องทาง (Omni-Channel) ซึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564  MAKRO มีสาขาในไทย และต่างประเทศกว่า 140 แห่ง เช่น กัมพูชา อินเดีย จีน
เมียนมา เป็นต้น

ส่วนกลุ่มโลตัสส์มีสาขาในไทย 2,094 แห่ง และมาเลเซียอีก 62 แห่ง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564  โดยธุรกิจของ “กลุ่มโลตัสส์” แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักคือ ธุรกิจค้าปลีก และ ธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยกลุ่มโลตัสส์เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลายประกอบด้วย ร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต และมีธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า ในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย

ดีล WIN WIN WIN

ที่ผ่านมาแม็คโครและกลุ่มโลตัสส์ได้รับซื้อสินค้าจากเอสเอ็มอี (SMEs) และผู้ผลิตสินค้าจากทั่วประเทศมาจัดจำหน่ายแก่ผู้บริโภค ตลอดจนให้ความรู้แก่เกษตรกรพัฒนาสินค้าที่ปลอดภัยไร้สารเคมีที่เป็นอันตรายตกค้าง รวมถึงการจัดหาสินค้าจากแหล่งยั่งยืน (Sustainable Sourcing) เช่น กลุ่มโลตัสส์เป็นผู้ประกอบการรายแรกในกลุ่มห้างค้าปลีกในไทย ที่พัฒนาสินค้าน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ได้รับรองมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) รับประกันปาล์มจากแหล่งที่ไม่ทำลายธรรมชาติโดยมาตัดไม้ทำลายป่า

ดังนั้นหากดีลดังกล่าวประสบความสำเร็จจะยิ่งทำให้ เกิด WIN WIN WIN หลายฝ่ายโดยเฉพาะการยกระดับและพัฒนาสินค้าจากเอสเอ็มอีและเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าไปสู่ตลาดเอเซียมากยิ่งขึ้น ตามยุทธศาสตร์นำสินค้าไทยขยายตลาดระดับภูมิภาคเอเชีย และที่สำคัญนักลงทุนก็จะได้ประโยชน์ของการเติบโตของ MAKRO เช่นกัน

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp