มิติหุ้น – นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้เปิดพื้นที่นำร่องรับนักเดินทางต่างชาติภายใต้โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และขยายต่อไปยัง พังงา กระบี่และสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และเตรียมจะเปิดพื้นที่ในเฟสสองอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ เร็ว ๆ นี้ จึงเป็นโอกาสดีที่ทีเส็บจะส่งสัญญาณให้นานาชาติได้รับรู้ถึงความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักเดินทางไมซ์และการจัดงานไมซ์นานาชาติเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ทีเส็บและสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) จับมือนำผู้ประกอบการไมซ์ 20 ราย เข้าร่วมงาน IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2021 Virtual งานเทรดโชว์ด้านการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในรูปแบบ Virtual Event เมื่อวันที่ 28-30 กันยายนที่ผ่านมา และที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่สำนักภูมิภาคทั้ง 4 ภาคของทีเส็บ นำเมืองไมซ์ครบทั้ง 10 เมืองร่วมแสดงศักยภาพความพร้อม เสน่ห์และเอกลักษณ์ของเมือง ดึงความสนใจของตลาดเป้าหมายจากทั่วโลก ภายใต้แคมเปญการสื่อสาร “Thailand: Redefine Your Business Events – Experience the Extraordinary” โดยมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อนานาชาติมากถึง 1,065 นัดหมาย และมีจำนวนงานที่คาดว่าจะเข้ามาจัดในประเทศไทย รวม 110 งาน
ผู้ประกอบการไมซ์ 20 ราย ประกอบด้วย โรงแรม 14 แห่ง ศูนย์จัดการประชุมและนิทรรศการ 2 แห่ง และบริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินทาง (Destination Management Company: DMC) 4 แห่ง พร้อมกับเมืองไมซ์อีก 10 แห่ง ประกอบด้วย กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี สงขลา สุราษฎร์ธานี และพิษณุโลก โดยผู้แทนจากเมืองไมซ์มีทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด ศูนย์ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการประจำจังหวัด และสมาคมเครือข่ายไมซ์ประจำภูมิภาคของเมืองไมซ์ ได้เข้าร่วมนำเสนอสินค้าและบริการประชันกับผู้ขายนานาชาติ 185 ราย โดยมีผู้ซื้อกว่า 30 ประเทศทั่วโลกรวม 277 ราย เข้าร่วมงานในครั้งนี้
“การนำเมืองไมซ์ทั้ง 10 เมืองเข้าร่วมงาน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย และแนวทางรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการควบคุมสถานการณ์โรคระบาด และลดระยะเวลาการกักตัวเหลือ 7 วัน สำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามที่กำหนด เริ่มอนุญาตให้สถานประกอบการกลับมาให้บริการได้มากขึ้น และเตรียมพร้อมเปิดหัวเมืองหลักเพิ่มเติมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทางทีเส็บได้เตรียมความพร้อมในส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อรองรับการเปิดเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 10 เมืองไมซ์ที่เข้าร่วมงาน นำเสนอสถานที่จัดงานที่หลากหลาย และเส้นทางไมซ์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกิจกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนั้น ทีเส็บยังได้เปิดตัวแคมเปญการสื่อสารใหม่สำหรับปี 2565 คือ “Thailand: Redefine Your Business Events – Experience the Extraordinary” มุ่งเน้นการสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษเพื่อสื่อสารให้นักเดินทางไมซ์จากนานาประเทศ ได้รับรู้ว่าประเทศไทยพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยจุดหมายปลายทางสุดพิเศษ (Extraordinary Destinations) เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษ (Extraordinary Experience) ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าเดิมให้กับนักเดินทางไมซ์จากทุกมุมโลก เนื่องจากระยะเวลากว่า 2 ปีที่ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ ย่อมมีความคาดหวังการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในประเทศปลายทางเพื่อชดเชยโอกาสที่สูญเสียไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยยังคงเป็นที่สุด และงดงามยิ่งกว่าเคย ทั้งด้านจุดหมายปลายทางสถานที่จัดงาน โอกาสทางธุรกิจ และการบริการการต้อนรับที่น่าประทับใจ”
ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวต่อไปว่า ปีที่ผ่านมาทีเส็บได้เตรียมความพร้อมจับมือจังหวัดพัฒนาเมืองไมซ์ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์และเส้นทางไมซ์ใหม่ ๆ ภายใต้โครงการ “Thailand 7 MICE Magnificent Themes” และได้ประกาศเมืองไมซ์เพิ่มอีก 3 แห่ง คือ อุดรธานี พิษณุโลก และสงขลา ขณะที่เมืองไมซ์ที่มีอยู่เดิมได้เร่งพัฒนายกระดับมาตรฐานบริการ ผลิตภัณฑ์ และเส้นทางใหม่ ๆ ทั้งการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ รวมไว้ใน “Thailand 7 MICE Magnificent Themes” อาทิ Chiang Mai Blooms Floral Festival และ Khon Kaen Silk Festival
ในงานนี้ทีเส็บยังได้เสนอแพ็กเกจสนับสนุนนักเดินทางไมซ์ทุกกลุ่มครบวงจร โดยมุ่งเจาะกลุ่มประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลนานาชาติ คือแพ็กเกจ “SMILE Recovery” ให้การสนับสนุนทั้งงบประมาณและการสนับสนุนอื่น ๆ สำหรับการประชุมขององค์กรธุรกิจและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลที่มีการจัดกิจกรรมในประเทศไทยภายในเดือนกันยายน 2565 แพ็กเกจ “Convene Plus” สนับสนุนการจัดงานประชุมนานาชาติที่สร้างผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดงานในรูปแบบ Hybrid หรือใช้เทคโนโลยีออนไลน์ หรือมีการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในท้องถิ่น แพ็กเกจ “Re-Energizing Exhibitions” สนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ที่ให้การสนับสนุนทั้งผู้จัดงาน ผู้แสดงสินค้า และผู้ซื้อ รวมถึงการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับงานใหม่ที่จัดในพื้นที่ EEC ทั้งในรูปแบบปกติ หรือ Hybrid และแพ็กเกจ “Festival Economy” สนับสนุนการจัดงานเมกะอีเวนต์ และการจัดงานเทศกาลขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับโลก