มิติหุ้น – นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบชั้นนำของไทย และเป็นบริษัทแกนนำ (Flagship Company ) ของกลุ่ม บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบการอยู่อาศัย ประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ ผ่านการออกแบบด้วยแนวคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมล้ำหน้า พร้อมการบริการที่อบอุ่นเอาใจใส่ดูแล เพื่อให้ลูกบ้านมั่นใจและสบายใจในวิถีชีวิตคุณภาพที่มีความสุขสูงสุด โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในการใช้ชีวิตของลูกบ้านได้อย่างรวดเร็วในรูปแบบ Service on Demand ทั้งในด้าน Property Tech Service Tech และ Living Tech อาทิ บริการตัดหญ้า จองคิวตัดผม ตัดขนสุนัข ฯลฯ ซึ่งจะทำให้บริทาเนียเป็นบริษัทฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งทำเลที่มีการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ซึ่งแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายและรูปแบบโครงการ ได้แก่ (1) แบรนด์ “เบลกราเวีย” โครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว (2) แบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย” โครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด (3) แบรนด์ “บริทาเนีย” โครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม และ (4) แบรนด์ “ไบรตัน” โครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จากแบบบ้านที่มีความโดดเด่น พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน รูปแบบโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง รวมถึงบริการที่ตอบสนองความต้องการต่างๆ ของผู้อยู่อาศัย
บริษัทฯ ได้ออกแบบบ้านและให้บริการลูกค้าภายใต้แนวคิด A Life You Love ให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถใช้ชีวิตในแบบที่รัก ซึ่งสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการพื้นฐานของผู้อยู่อาศัย (Human Centric) รวมทั้งศึกษาปัญหาต่างๆ (Customer Pain Point) ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้เข้าใจการใช้ชีวิตของผู้อาศัยและออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ โดยไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้และพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัยและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบบบ้านมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ เป็นแบบบ้านที่เน้นฟังก์ชันการใช้งาน ผ่านคอนเซ็ปต์ B Genius Mode ที่ประกอบด้วยทั้ง B Smart Home Automation, B Smart Design, B Smart Home Services, B Smart Community ทำให้ที่อยู่อาศัยมีฟังก์ชันและนวัตกรรมพร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมบริการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Solution Platform) งานบริการที่ช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัยของลูกบ้านให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเป็นพันธมิตรร่วมกับแบรนด์ชั้นนำที่มีศักยภาพในงานบริการด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย และงานให้บริการดูแลบ้านในด้านต่างๆ จากความใส่ใจในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายต่อลูกค้าผู้ซื้อบ้านทำให้เกิดเป็นความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ส่งผลให้เกิดการบอกต่อจากลูกค้าที่เคยซื้อบ้านของบริษัทฯ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย กล่าวอีกว่า แผนงานในอนาคตของบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เป็นบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเป้าหมายระยะสั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ BRITANIA และปรับปรุงอัตลักษณ์ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมทั้งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้ามากที่สุด ทั้งในด้านคุณภาพ พื้นที่การใช้สอย ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรให้เกิดความสมดุลด้วยแนวคิดการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
ขณะที่เป้าหมายระยะกลางและระยะยาว บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรสู่การเติบโตแบบยั่งยืนและสามารถครองใจลูกค้า เพื่อเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบชั้นนำของไทย โดยมีแผนพัฒนาโครงการภายใน 5 ปี ให้ครอบคลุมกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฯลฯ
ทั้งนี้ นับจากปี 2560-2564 บริษัทฯ ขยายการพัฒนาโครงการอย่างก้าวกระโดด จาก 1 โครงการ ในปี 2560 เพิ่มเป็น 23 โครงการ ในปี 2564 สะท้อนถึงศักยภาพและการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งการเพิ่มจำนวนโครงการไปยังทำเลศักยภาพต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมโซนภาคตะวันออก โดยเฉพาะในย่านโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) โดยบริษัทฯ สามารถปิดการขายที่อยู่อาศัยแล้ว 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 2,028 ล้านบาท มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 17,550 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท และโครงการในอนาคต จำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564)
ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวแคมเปญ “BRITANIA FEEL GOOD” เพื่อสร้างความแตกต่างด้านการให้บริการแก่ลูกค้าและผู้อยู่อาศัย สะท้อนถึงความใส่ใจรายละเอียดกับบริการพิเศษที่ไม่จำกัดแค่ที่อยู่อาศัยในทุกๆ สถานการณ์ แม้ในสถานการณ์ COVID-19 ผ่าน 5 คอนเซ็ปต์ GOOD CHOICES, YOU CHOOSE ให้การซื้อบ้านเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น ด้วยทางเลือกที่มีให้อย่างหลากหลายและตรงใจ GOOD DESIGN, OWN YOUR STYLE ก้าวข้ามทุกข้อจำกัดของการออกแบบ ให้ทุกมุมของบ้านสามารถใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว GOOD SOCIETY WITH SHARING JOY มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยท่ามกลางสังคมคุณภาพ พร้อมด้วยความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน GOOD PLACES FROM THE BEST LOCATION ให้ทุกจุดหมายของทุกความชอบ เชื่อมต่อการใช้ชีวิตได้ครบไลฟ์สไตล์ด้วยทำเลคุณภาพ และ GOOD CARE WITH EXCLUSIVE FACILITIES ยกระดับชีวิตให้สมบูรณ์แบบด้วยพื้นที่ส่วนกลางให้ได้ทำกิจกรรมโปรด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการตลอดการอยู่อาศัย
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
https://lin.ee/cXAf0Dp