DRT ลุ้นกำไร Q3สดใส แม้เจอโควิดระลอกที่ 4

129

มิติหุ้น-บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า DRTหรือ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร คาดการณ์กำไรสุทธิ3Q21F เท่ากับ 115 ล้านบาท เติบโต +3%YoY (-36%QoQ)…ดีกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ไตรมาส 3 เป็นช่วงเวลาที่มีการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างชั่วคราว และล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม เพราะโควิดระบาดระลอกที่ 4 อย่างไรก็ตาม ยอดขายบริษัทยังโตได้ประมาณ +8%YoY เป็น 1.07 พันล้านบาท (ยอดขายผ่านModern Trade และโครงการเติบโตได้ดี) แต่ยอดขายไตรมาสนี้ลดลง -17%QoQ เนื่องจากโควิดระบาดและปัจจัยฤดูกาล

ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) งวด 3Q21F คาดว่าจะลดลงเป็น 27.1%จาก 28.6% ใน 3Q20และ 31.1% ใน 2Q21เป็นผลจากต้นทุนขยับขึ้น (ทั้งวัตถุดิบซีเมนต์ ใยหิน เยื่อกระดาษ) และค่าขนส่งสูงขึ้น ขณะที่ราคาขายขยับขึ้นได้อย่างจำกัดในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

ใน 4Q21F ยอดขายกระเตื้องขึ้นบ้างหลังรัฐบาลทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์แต่ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่สูง
ยังเป็นปัจจัยกดดัน ทั้งนี้ผู้บริหารระบุว่าในต้น 4Q21F ต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้นราว 15-20%YoY (ซีเมนต์ 13%ของต้นทุนรวม, ใยหิน 7-8%, เยื่อกระดาษ 7-8%), ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และค่าขนส่งยังคงแพงมาก เราประเมินว่า GPM น่าจะลดลงเป็น 26% กว่าๆใน 4Q21F

บริษัทปรับตัวเพื่อรักษามาร์จิ้น โดย 1) สต็อกวัตถุดิบนานขึ้นเป็นประมาณ 6 เดือน, 2) ซื้อวัตถุดิบจากแหล่งใหม่ที่มีราคา & ค่าขนส่งต่ำกว่าเช่น สั่งซื้อเยื่อกระดาษจากญี่ปุ่นบางส่วน (เดิมซื้อจากรัสเซียทั้งหมด),เจรจาซื้อซีเมนต์จากรายอื่นๆ (จากเดิมซื้อจาก SCCC เป็นหลัก) และพิจารณาปรับเพิ่มราคาขายในบางสินค้า ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับ GPM ในปี2022F ให้อยู่ในเป้าหมายที่26-28%

ตั้งเป้ายอดขายปี 2022F เติบโตไว้+5% โดยทำการตลาดแบบ Aggressive มากขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดล่าสุดได้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ Outlet ของ DCC ที่จ.อ่างทอง ขนาด 120 ตรม. (สัญญาปีต่อปี) เพื่อทำการตลาดตรงกับลูกค้า หลังจากศึกษาแล้วพบว่ามีโอกาสเติบโตได้ใช้เงินลงทุนราว 3 แสนบาท โดยมีค่าใช้จ่ายคงที่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/เดือน เริ่มบริการ 15 ต.ค.2021 นับเป็นโครงการนำร่อง ถ้าไปได้ดีก็จะพิจารณาขยายไปยังจังหวัดอื่นต่อไป

ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และพนักงานฉีดวัคซีน 2 เข็มราว99% ของทั้งหมดแล้ว

คงคำแนะนำซื้อเพื่อรับปันผลสูง ให้ราคาพื้นฐาน 8 บาท อิงกับ P/E ปี 2022 ที่ 12 เท่า (Mean 5 ปีย้อนหลัง) ทั้งนี้คาดการณ์เงินปันผลสำหรับปี 21F-22F ไว้ที่ 0.45 บาท/หุ้น (Payout ratio 67%) ณ ราคาหุ้น 7.40 บาท คิดเป็น DY 6.1%ต่อปี(จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

ความเสี่ยงหลัก คือ 1) ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้นขณะที่ราคาขายอาจปรับขึ้นได้น้อยกว่า, 2) แรงงานขาดแคลนทำให้ภาคก่อสร้างฟื้นตัวช้า, 3) ค่าขนส่งแพงเพราะคอนเทนเนอร์ตึงตัว, 4) การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้กระเบื้องใยหิน

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp