มิติหุ้น-“บมจ.สีเดลต้า” หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคารรายใหญ่ พร้อมเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันที่ 28 ตุลาคมนี้ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ในการซื้อขาย “DPAINT” หลังโชว์กระแสตอบรับในการจองซื้อหุ้น IPO ล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน โดยบริษัทฯ เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจ เงินที่ได้ใช้ปรับปรุงโรงงานเพิ่มศักยภาพการผลิต รวมทั้ง ซื้อเครื่องผสมสีเพื่อขยายช่องทางการจำหน่าย ผลักดันรายได้ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ควบคู่การต่อยอดนวัตกรรมสีทาอาคาร ด้วยการมุ่งเน้นด้าน R&D เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่องปลายปีนี้ รับดีมานด์พุ่ง งานก่อสร้างฟื้นตัว ด้านโบรกฯ มอง หุ้นน้องใหม่ DPAINT หลัง IPO พร้อมติดปีกสู่การเติบโตรอบใหญ่
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘DPAINT’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในธุรกิจสีทาอาคารที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 42 ปี พร้อมวางกลยุทธ์ ขยายตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญทางด้านนวัตกรรม โดยในช่วงไตรมาส 4/64 เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสีคุณภาพพิเศษที่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่มีอัตรากำไรสูง และการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มสีดิสนีย์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
รวมไปถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ธุรกิจก่อสร้าง และการปรับปรุงที่อยู่อาศัย สนับสนุนความต้องการสีทาอาคารให้เติบโตต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกประสบความสำเร็จเติบโตทั้งยอดขายและกำไร จึงเชื่อว่าจะสนับสนุนความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และสนับสนุนให้ DPAINT ได้รับความสนใจในระยะยาว
โดยบริษัทฯ วางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อบรรลุเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้นำสีทาอาคารของคนไทยที่สามารถยกระดับแบรนด์สู่สากล หลังจากก้าวแรกในปีนี้ บริษัทฯ ได้จับมือกับดิสนีย์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ปฏิวัติอุตสาหกรรมสีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เงินที่ได้จากการระดมทุน เตรียมนำไปใช้ลงทุนปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ เพิ่มความสามารถในการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสีจำนวน 440 เครื่อง จากปัจจุบันมี 379 เครื่อง เพื่อให้บริการในร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้นภายในปี 68
รวมทั้ง นำไปใช้ลงทุนในการทำระบบ ERP และใช้ลงทุนสร้างห้อง LAB ภายในปี 65 นอกจากนี้ใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการเติบโต และก้าวเข้าสู่ยุคสีเดลต้า 5.0 อย่างมั่นคงและยั่งยืน
น.ส.เดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า DPAINT เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจสีทาอาคาร โดดเด่นด้วยความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สร้างความแตกต่าง อีกทั้งแผนการขยายตลาดที่ประสบความสำเร็จ มีช่องทางการจำหน่ายทั้งตลาดโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก และงานโครงการ ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 – 2563) มีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 คิดเป็นการเติบโตของรายได้เฉลี่ย (CAGR) 7.2% ด้านกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 83.7%
ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 64 มีรายได้จากการขายและบริการ 387.7 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.7% กำไรสุทธิ 32.9 ล้านบาท เติบโต 48.2% อัตรากำไรขั้นต้น 43.3% อัตรากำไรสุทธิ 8.5% และมีกำลังการผลิตในโรงงานแห่งที่ 1 อยู่ที่ 3.24 ล้านแกลลอน/ปี ใช้อัตรากำลังการผลิตในครึ่งปีแรกในระดับมากกว่า 90% ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of scale เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ขยายการเติบโตตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้ จึงมองว่า จะสนับสนุนโอกาสให้ DPAINT เติบโตก้าวกระโดดได้ในอนาคต
ด้าน นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ DPAINT ในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 53.25 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.50 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินกว่าคาดหมาย ตอกย้ำถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ รวมถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต
สำหรับบทวิเคราะห์จาก 3 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ประเมินกรอบราคาเหมาะสมของ DPAINT อยู่ในกรอบที่ 9.80 – 13.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังไม่นับรวมโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
โดย บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุ DPAINT นำนวัตกรรมใหม่มาใช้ต่อยอดสินค้าทั้งเทคโนโลยีสูญญากาศและเครื่องผสมสี ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งคุณภาพและราคา ขณะที่ อุตสาหกรรมเอื้อต่อการเติบโต มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคก่อสร้าง โดยเฉพาะ อสังหาริมทรัพย์ สนับสนุนความต้องการใช้สีเร่งตัวขึ้น โดยประเมินมูลค่าหุ้น DPAINT อิง PER ที่ 29 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 9.80 บาท
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโต จากการใช้กำลังการผลิตใหม่ ที่จะรับรู้รายได้เต็มปีใน FY22F แผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการลงทุนในเครื่องผสมสีขยายตลาดสีทาอาคาร จึงประเมินมูลค่าของ DPAINT โดยอิง PER ในปี FY22 ที่ 31.8 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.40 บาท ซึ่งน่าสนใจเมื่อเทียบกับประมาณการณ์ราคา IPO ที่คาดว่าจะอยู่ที่ PER 21-22 เท่า
ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ DPAINT มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร IPO ครั้งนี้เป็นเสมือนการติดปีกสู่การเติบโตรอบใหญ่ มีแผนนำเงินจาก IPO ลงทุนในโรงงานใหม่ที่ทันสมัย เน้นระบบ Automation คาดจะแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมีนัยยะ ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการประเมินมูลค่าพื้นฐานด้วยวิธี PER (อิง PER 36x ) มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม เนื่องจากเชื่อว่า DPAINT ควรซื้อขายด้วย Premium มากกว่ากลุ่ม เนื่องจากมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง ยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากทำให้มีโอกาสเติบโตสูงกว่ากลุ่ม เราประเมินมูลค่าด้วยวิธี PER และ DCF (WACC 7.3%, Terminal growth 4%) ได้มูลค่าเหมาะสมปี 2565 ในกรอบ 12.20 – 13.50 บาทต่อหุ้น
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp