มิติหุ้น – บมจ. เทคโนเมดิคัล (TM) กลับมาผงาดในครึ่งปีหลัง ส่อแววผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างโดดเด่น หลังรับอานิสงส์ ยอดขาย ATK ทั้งในแบบ professional use และ home use ดันรายได้พุ่ง พร้อมจัดกระบวนทัพใหม่ ปั้นแบรนด์“TM Herb” เป็นของตัวเอง ดันยอดขายเพิ่ม เตรียมส่งสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ อาทิ เครื่องทำน้ำด่าง, อาหารเสริม Probiotic และ สมุนไพรไทย ในรูปแบบแคปซูล ทั้งกระท่อม กระชาย กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ลงตลาด Q4/64 นี้ ด้าน บล. เอเชีย เวลท์ มองสถานการณ์TM พลิกกลับเป็นบวก ประเมินQ3/64 ลุ้นรายได้แตะ 160-170ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 40-45 ล้านบาท ส่วนทั้งปีคาดทำกำไรสุทธิได้ 50-55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%YoY ถึง 34%YoY ชี้ราคาเป้าหมายที่ 4.42-4.88 บาท
นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ให้มีความครบวงจรมากขึ้น โดยล่าสุด TM ได้วางกลยุทธ์เจาะตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด เพิ่มเติม อาทิ Mask ผ่าตัด N95 รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ ได้แก่ เครื่องทำน้ำด่าง , อาหารเสริม Probiotic จาก เกาหลี , และ สมุนไพรไทย ในรูปแบบแคปซูล อาทิ กระท่อม กระชาย กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ภายใต้แบรนด์ “TM Herb” ซึ่งเป็นของบริษัทเอง โดยบริษัทฯได้มีกลุ่มนักวิจัย และกลุ่มเภสัชกร ร่วมกันช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายในตลาดและช่องทางออนไลน์ www.tmcare-shop.com,facebook.com /TMCARESHOP และ Line@ : @tmcareshop ภายในไตรมาส 4/2564
ทั้งนี้ บริษัทฯเชื่อว่าหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางจำหน่ายจะสามารถเพิ่มยอดขายให้บริษัทฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ รวมถึงยังสามารถต่อยอดไลน์ผลิตภัณฑ์เดิมที่บริษัทฯเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโควิด อาทิ เจลล้างมือ PURELL, หน้ากาก Life 3D Surgical Mask, ชุด PPE, ผลิตภัณฑ์ Ara Dry Shampoo เช็ดทำความสะอาดผิวกาย, แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ V-Wipes, ผลิตภัณฑ์ Aircraft Odor Eliminator สเปรย์ปรับอากาศและขจัดกลิ่น สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ผลิตภัณฑ์ Fresh & Clean 3 in1 สเปรย์ปรับอากาศ ฆ่าเชื้อโรค และขจัดกลิ่น ภายใต้แบรนด์ Callington, ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ Netbiokem DSAM+ Hospital Grade Disinfectant น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรียCovid-19 เครื่องฟอกอากาศ M-One กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และฝุ่นพิษ PM 2.5 รวมถึงเครื่องผลิตออกซิเจน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึง อานิสงส์จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 Antigen Test Kit (ATK) ภายใต้ยี่ห้อ Humasis จากประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ว่า ในช่วงไตรมาส3/2564 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯมีรายได้จากยอดขายATK เข้ามาอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแบบ professional use และ home use ส่งผลให้ยอดออเดอร์จากกลุ่มสมาคมร้านขายยาเวชภัณฑ์ กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่าง ซึ่งสอดรับกับยอดออเดอร์จากกลุ่มโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชน ที่TM เป็นตัวแทนจำหน่าย อยู่มากกว่า 1,000 แห่ง ยิ่งตอกย้ำถึงยอดขายATK ที่สูงขึ้น
ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯมองว่า ภาพรวมผลการดำเนินในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามที่บริษัทฯประเมินไว้ที่ 700 ล้านบาท ทั้งนี้ ทิศทางการเติบโตของบริษัทฯสอดรับการประมาณการของบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ที่ระบุว่า บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM ในช่วงไตรมาส 3/2564 มีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นผลมาจากการจำหน่ายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หลัง TM มีการนำเข้ามาจำหน่าย ซึ่งคาดว่าชุดตรวจดังกล่าวจะมียอดขายสูง และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ประกอบกับผลิตภัณฑ์หลักที่บริษัทจัดจำหน่ายได้มีการฟื้นตัว หลังจำนวนผู้ป่วยในตามโรงพยาบาลมีการฟื้นตัว เบื้องต้นทางคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ในไตรมาส 3/2564 ราว 160-170ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 40-45 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บล.เอเชีย เวลท์ ยังระบุอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งหนุนจากชุดตรวจ ATK และการฟื้นตัวของกาลังซื้ออุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง โดยเฉพาะที่ใช้ในห้องผ่าตัด โดยคาดว่ารายได้ในส่วนดังกล่าวจะฟื้นตัวต่อเนื่องไปยังปี 2565 ซึ่งได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศ ทำให้ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติจะกลับมารักษาตัวได้ปกติ โดยเฉพาะ Pent Up Demand จากผู้ป่วยต่างชาติ จะหนุนการจำหน่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์การผ่าตัด เบื้องต้นเราประเมินกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2564 อยู่ที่ 50-55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%YoY ถึง 34%YoY และให้กรอบราคาเป้าหมายที่ 4.42-4.88 บาท