ในสถานการณ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากมีเหตุและปัจจัยที่เข้ามากระทบกับการลงทุนหลายๆ อย่างในเวลาไล่เลี่ยกัน ฉะนั้นการลงทุนที่จะเหมาะกับสถานการณ์เช่นนี้ หรือหลุมหลบภัยที่ดี ที่ไม่ได้มีผลกระทบ หรือกระทบน้อยที่สุดนั่นก็คือ กลุ่มอุตสาหกรรม และตอนนี้ตลาดหุ้นไทยก็กำลังจะต้อนรับหุ้นน้องใหม่ที่ตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ได้ นั่นก็คือ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม และพื้นที่โลจิสติกส์ (Logistics park) พร้อมระบบสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ภายใต้การออกแบบโครงการด้วยแนวคิดอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) และเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารโรงงานและคลังสินค้าที่ได้มาตฐานเหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม รวมถึงลงทุนและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF)
เปิด 6 นิคมอุตสาหกรรมในเครือ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 6 โครงการ โดยแบ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 1 (PIN1) นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 2 (แหลมฉบัง) (PIN2) นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 3 (PIN3) นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 4 (PIN4) นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 5 (PIN5) และนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 6 (PIN6) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการ Logistics Park ที่เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการปิ่นทองแลนด์ (PL) โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีฐานลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งรวมกัน 282 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการจากต่างชาติ ประมาณร้อยละ 89 ของฐานลูกค้าทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการจาก ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ขณะที่ผู้ประกอบการไทยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 11 ของฐานลูกค้าทั้งหมด
จัดตั้งกองทุนอสังหาฯ ระดมทุน
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังลงทุนและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) โดยถือหน่วยลงทุนสัดส่วนร้อยละ 15 ทั้งนี้ PPF มีเงินลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้า (Freehold) ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ได้แก่ PIN1, PIN2 และ PIN3 รวมจำนวน 90 ยูนิตบนที่ดิน 151 ไร่ 1 งาน 87.1 ตารางวา โดยมีพื้นที่อาคารให้เช่าทั้งหมด 134,338.4 ตารางเมตร
“เรามีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญดำเนินธุรกิจมานานกว่า 25 ปี จากการเริ่มต้นพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจำนวน 200 ไร่ จนปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่ที่พัฒนาแล้วกว่า 7,500 ไร่ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยดำเนินการออกแบบผังโครงการพื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่พาณิชยกรรม พื้นที่สีเขียว และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ได้แก่ ถนน ระบบระบายน้ำ ระบบประปา ระบบบำบัดน้ำเสียและระบบโทรคมนาคม อย่างมีมาตรฐาน และมีการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่อย่างมืออาชีพ” นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIN กล่าวว่า
เปิดโครงสร้างรายได้
นอกจากนี้ด้านรายได้หลักจากการประกอบธุรกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) อยู่ที่ 888.98 ล้านบาท 789.28 ล้านบาท และ 1,062.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 216.43 ล้านบาท 223.70 ล้านบาท และ 403.89 ล้านบาท ซึ่งมีโครงสร้างรายได้หลักๆ จากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์สัดส่วนราว 71-77 % และรายได้จากการให้เช่าและบริการสัดส่วน 15-20 % ของรายได้รวม
เสนอขาย IPO 290 ล้านหุ้น
พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 290 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน โดย PIN นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้มาเสริมความแข็งแกร่งการดำเนินงานจากแผนลงทุนโครงการ Logistics Park แห่งใหม่ เพื่อรองรับการลงทุนของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ส่วนที่เหลือนำไปชำระเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานต่อไป
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้