“ADD” โชว์ผลงาน 9 เดือน กำไรพุ่ง 54.18 %

61

มิติหุ้น  –   บมจ.แอดเทค ฮับ (ADD) โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โชว์งบ 9 เดือนแรกของปี 64 โกยรายได้ 387.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 74.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รับอานิสงส์โควิด ดันผู้บริโภคเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ หนุนรายได้การให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ โต 76.85% และการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โต 30.44% จากปีก่อน ด้าน CFO “สมโภช ทนุตันติวงศ์” ส่งสัญญาณบวก มองหาโอกาสในการลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่อง ล่าสุดบอร์ดเคาะจ่ายปันผลงวดไตรมาส 3/64อัตรา 0.15 บาท/หุ้น จ่อ XD วันที่ 26 พ.ย.นี้ และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 ธ.ค. 2564      

บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD ผู้ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการระบบสนับสนุนบริการดิจิทัลคอนเทนต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงงบผลการดำเนินงวด 9 เดือนของปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรวม เท่ากับ 387.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 68.31 เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ 229.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 74.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 54.18 เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 48.17 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการให้บริการ เท่ากับ 124.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.06 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่ 1.) ธุรกิจการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ผ่านช่องทางโทรคมนาคม ที่มีรายได้ 333.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76.85% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคู่ค้าด้านการตลาดในช่องทางออนไลน์ซึ่งทำให้การให้บริการสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และมีกำไรขั้นต้นจำนวน 90.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 61.09% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 27.22% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 29.88% เนื่องจากต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ให้แก่คู่ค้าด้านการตลาดในช่องทางออนไลน์โดยเฉลี่ยมีอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้น

2.) ธุรกิจการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีรายได้ จำนวน 53.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.44% เนื่องจากบริษัทมีการให้บริการโครงการใหม่แก่ลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และมีกำไรขั้นต้นจำนวน 31.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.69% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 59.22% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 65.08% เนื่องจากต้นทุนค่าบริการคลาวด์เซิร์ฟเวอร์และต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเพิ่มขึ้น และ 3.) ธุรกิจการให้บริการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับสินค้าและบริการ อยู่ที่ 0.26 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.16 ล้านบาท หรือลดลง 37.66% และมีขาดทุนขั้นต้น จำนวน 1.76 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายปันผลงวดไตรมาส 3/2564 (ก.ค.-ก.ย. 2564)  ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 24 ล้านบาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 15 ธันวาคม 2564

นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ. แอดเทค ฮับ (ADD) เปิดเผยว่า  บริษัทฯยังคงตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% ตามแผนที่วางไว้ บนพื้นฐานการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยมองภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการการให้บริการทั้งในส่วนของการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์(Digital Content) ผ่านช่องทางโทรคมนาคม รวมถึงการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าช่วงปลายปีนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเริ่มมีการฟื้นตัว ซึ่งเป็นอานิสงส์จากมาตรการคลายล็อคดาวน์ รวมถึงการเปิดประเทศ ที่จะเข้ามาเป็นตัวแปรหลักของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อกลับมาอีกครั้ง

ประกอบกับเชื่อว่า ภาพรวมของตลาดบริการ Digital ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากมูลค่าตลาดรวมที่ 231,220 ล้านบาท แม้ว่าประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ก็ตาม แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้การให้บริการออนไลน์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการลงทุนเครือข่าย 5G ถือเป็นโครงข่ายความเร็วสูง ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการใช้งานได้จริงในอนาคต  หนุนให้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital Content ใหม่ๆ ออกมารองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้บริการ Digital Content ในรูปแบบการสมัครสมาชิก ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจในอนาคตเติบโตอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯเตรียมขยายงานด้าน Content หรือ Solution ใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตตามการขยายตัวของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Operator) ผ่านการเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงมองหาโอกาสในการลงทุนขยายธุรกิจ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงต้นปี 2565 อย่างแน่นอน