CKP หรือ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ โดย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินจากบริษัทยังคงเป้าหมายจะเพิ่มกำลังผลิตติดตั้งจาก 2.2 GW (1GWe) เป็น 5 GW ภายในปี 68 โดยส่วนใหญ่จะมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในลาว (1.5 GW), PPA ของโครงการ solar ภาคเอกชนในประเทศไทย และพลังงานลมในเวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างรอแผน PDP8 ฉบับใหม่จากรัฐบาลเวียดนาม นอกจากนี้ CKP ยังตั้งเป้าสัดส่วนกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังน้ำเอาไว้ที่ 80-90% ของพอร์ตบริษัท
ทั้งนี้ ผบห. แจ้งว่าโครงการหลวงพระบางกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลลาว (คืบหน้าไปแล้ว 80-90%) และการเจรจา MOU ค่าไฟฟ้ากับ กฟผ. (คืบหน้าไปแล้ว 50-60%) ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีการใส่เงินลงทุนเข้าไปในโครงการหลวงพระบางแล้วรวมประมาณ 2.7 พันลบ. ตามสัดส่วนการลงทุนของ CKP ที่ 42%
CKP ออกหุ้นกู้ล็อต 2/2564 เมื่อวันที่ 21 ต.ค.64 วงเงิน 2 พันลบ. (อัตรา ดบ. 3.58% อายุ 10 ปี) โดยบริษัทนำเม็ดเงินที่ระดมทุนจากหุ้นกู้ 1.8 พันลบ. ไปชำระหนี้ระยะสั้นที่เกิดจากการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีก 5% ใน XPCL และนำอีก 200 ลบ. ที่เหลือไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
คาดกำไรจากธุรกิจหลักใน Q4/64 จะลดลง QoQ เพราะรายได้ equity income จาก XPCL จะลดลง แต่กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากปรากฏการณ์ La Nina จะยังคงส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ก.พ.65 ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมาย 7.20 บ. ซึ่งรวมมูลค่าส่วนเพิ่มจากโครงการหลวงพระบางเรียบร้อยแล้ว
ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้