B บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม 1.4 พันล้านหุ้น

780

มิติหุ้น-บีจิสติกส์ ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ  โฟกัส ”Green Logistics – Green Utilities”  บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน 1.4 พันล้านหุ้น รองรับแผนการลงทุนในอนาคต  ตั้งเป้าเป็นธุรกิจสีเขียวภายใน 5 ปี เพื่อการเติบโตยั่งยืน  ขายผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1.5 หุ้นเดิมต่อ  1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาหุ้นละ 0.68 บาท พร้อมแจกฟรีวอร์แรนต์ W-B7 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิเพิ่มทุน  เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 21 ม.ค 2565 นี้

นางสาวสุทธิรัตน์  ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานกรรมการบริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B ผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้บริษัทมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยให้โฟกัส 2 ธุรกิจหลักคือ กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ  Green Logistics  และธุรกิจสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ  Green Utilities โดยตั้งเป้าหมายกลุ่มบี เป็นธุรกิจสีเขียวภายใน 5 ปี

ทั้งนี้เพื่อให้แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท มีความคล่องตัวและประสบผลสำเร็จ บริษัทจำเป็นต้องเตรียมแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับแผนการลงทุนในอนาคต โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 วันที่  21 มกราคม2565  เพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,437.83 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,655.61 ล้านบาท เป็น 3,093.44 ล้านบาท  โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,114.45 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) 0.68  บาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) 1,409.63 ล้านหุ้น สัดส่วน 1.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่  ราคาหุ้นละ 0.68 บาท

ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออีก 704.81 ล้านหุ้น  รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)ชุดที่ 7  หรือ  B-W7  ที่จัดสรรฟรีให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน สัดส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ต่อ  1 หน่วยวอร์แรนต์  ในราคาใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นละ 0.99 บาท   ทั้งนี้บริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565

ในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิม บริษัท จะเสนอขายหุ้นที่เหลือให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยเป็นราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด และเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ที่ราคาหุ้นละ 0.68 บาท แต่บุคคลในวงจำกัดที่จองซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจะไม่ได้รับสิทธิในการจัดสรรวอร์แรนต์  W-B7

นางสาวสุทธิรัตน์   กล่าวต่อว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้เป็นแบบมีวัตถุประสงค์ชัดเจน คือสัดส่วน 30% ของเงินเพิ่มทุน จะใช้ลงทุนสำหรับการขยายกิจการ ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2565-2569 สัดส่วน 30% ของเงินเพิ่มทุน จะใช้ลงทุนในโครงการด้าน Green Logistics  ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2565-2569  และ 30% ลงทุนจะใช้ลงทุนในโครงการด้าน  Green Utilities  มีแผนการใช้เงินเพิ่มทุนตั้งแต่ปี 2565-2569  ส่วนที่เหลืออีก 10% ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

“ธุรกิจของ B มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  บริษัทจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุน รองรับแผนการลงทุนในอนาคต เพื่อเตรียมสภาพคล่องและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน  รวมทั้งยังช่วยเสริมให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง  และที่สำคัญการขยายการลงทุนใหม่ในอนาคต จะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 ปี 2564 สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 109.464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 442%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกัน ปี 2563 ที่ขาดทุน 32.045 ล้านบาท และมี EBITDA 145.29 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ 12.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.3 ล้านบาท หรือ 1,022 %

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp