ATP30 ทะลายกำแพง!ปิดกั้นการเติบโต มุ่งสู่ S-Curve ลูกที่2 หนุนกำไรโตทะยาน 100%

1090

ATP30 โดย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองว่าองค์ประกอบสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตรอบใหม่พร้อมลงตัวแล้ว ทั้ง Partner ระดับโลกจากต่างประเทศ กลุ่มทุนนิคมอุตสาหกรรม และยักษ์ใหญ่พลังงานไทย, การอยู่ในเมกกะเทรนด์ EV car และ การพัฒนาองค์กรขึ้นมาจนทะลายกำแพงปิดกั้นการเติบโตได้แล้ว จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม roll-over ไปปี 2565 ที่ 3.24 บาท/ หุ้น

โดยครั้งนี้ฝ่ายวิจัยได้เปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าจาก P/E multiple ไปเป็นการคิดลดกระแสเงินสด DCF (WACC 10.0% g 2.0%) จากกระแสเงินสดที่จะเริ่มสม่ำเสมอ ขณะที่โมเดลธุรกิจให้บริการรถรับส่งโรงงานสมัยใหม่ก็ยังคงเดินหน้ากินส่วนแบ่งตลาดธุรกิจรถบัส-รถตู้ครอบครัวซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอก 3 กดดันกำไรช่วงครึ่งปีแรกปี64 อย่างไรก็ดี สิ่งดีๆ ก็ทยอยเกิดขึ้น เช่น (1) มี.ค. บจก.โตโยตาทูโช ไทยโฮลดิ้งส์ เข้ามาซื้อหุ้น PP และถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ที่ 9.5% จากความชื่นชอบในโมเดลธุรกิจ จากนั้นได้เริ่มแนะนำลูกค้าใหม่ต่างชาติมาให้บริษัท (2) ก.ค. ลูกค้าญี่ปุ่นรายใหม่ Mitsubishi Electric Auto-Parts ทำสัญญาว่าจ้าง 70 คัน ดันให้ fleet รถเพิ่ม 18% ซึ่งเป็นสัญญาฉบับเดียวที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทเคยมี

(3) ส.ค.-ต.ค. ATP30 จับมือกับ ARUN+ (บริษัทย่อยของ PTT) ร่วมให้บริการในระบบนิเวศน์ EV ในกลุ่มงาน EVme+ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้รถไฟฟ้าให้ประชาชน (4) ธ.ค. ATP30 ต่อสัญญาลูกค้าเดิม 1 ราย และทยอยให้บริการลูกค้าใหม่ 2 รายจากกลุ่ม ปตท. ได้แก่ PTTGC 22 คัน และ GPSC 45 คน ดันให้fleet รถเพิ่มขึ้น 50% เป็น 523 คัน ภายในเวลา 6 เดือน (5) ในช่วงแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดของไทย ATP30 รายงานกำไรสุทธิ Q3/64 ที่ 12.5 ลบ. ฟื้นตัวแรง +734.7% YoY และ +25.2% YoY เกือบเป็นสถิติใหม่ของบริษัท

พร้อมเดินหน้าสู่ S-Curve ลูกที่2 คาดกำไรโต 100.9%
ย้อนในปี 2558 ATP30 บริหารรถอยู่ 239 คัน ผบห.ได้เคยเผยกับฝ่ายวิจัยว่า ข้อจำกัดของบริษัท คือ การบริหารรถ 500 คัน เพราะต้องดูแลรถ,การจัดการเส้นทาง-น้ำมัน ที่ซับซ้อน และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารพนักงานขับกว่า 500 คนให้มีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน ทว่าวันนี้ ATP30 ได้บริหารรถกว่า 523 คัน และตั้งเป้าเพิ่มอีก 25% หรือ 130 คันในปีหน้า

ผู้บริหารได้เผยสิ่งที่เปลี่ยนไปจากวันนั้น คือ ATP30 ได้สร้างทีมบุคคลากรในการขับเคลื่อนบริษัทได้แล้ว แทนที่จะพึ่งเพียงผู้บริหารสูงสุด (คุณปิยะ เตชากูล) เท่านั้น ตัวอย่างหนึ่งที่ดีคือ การคัดสรรพนักงานขับกว่า 100 คน ได้ภายเวลาอันสั้นก่อนให้บริการลูกค้าใหม่ใน Q4/64 นี้ มาถึงตอนนี้เชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะเดินหน้าไปอีกก้าวใหญ่ๆ แล้ว และคาดกำไรปี 2565 จะเติบโต 100.9% YoY