TMI โดยนายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม (TMI) เปิดเผยว่า ปี 2565 จะเป็นปีที่สดใสของธุรกิจพลังงาน และธุรกิจผลิตหลอดและอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 20% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตที่ระดับ 550 ลบ. ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะต่อยอดการเติบโตเป็นบวกในทุกไตรมาสของทั้งปี 2565
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ยังมีสัญญาณเชิงบวก โดยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของท้ายปียอดขายได้เร่งตัวขึ้นอย่างมาก เบื้องต้นจึงเชื่อว่าภาพรวมทั้งปี 64 จะเป็นบวกได้
ส่วนในปี 2565 ช่วงไตรมาสแรกบริษัทจะสามารถ COD โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ( ไบโอก๊าซ) กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 อยู่ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งจะเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 ของบริษัท โดยปีหน้าจะรับรู้รายได้เต็มจำนวน
ขณะที่ก่อนหน้าบริษัทมีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 หรือโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วเมื่อต้นไตรมาส 3/2564 และแห่งแรกที่มีโรงไฟฟ้าชีวภาพ 1 โครงการ กำลังการผลิต 1.4 เมกะวัตต์ อยู่ที่จังหวัดชุมพร ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพอีกประมาณ 3-5 เมกกะวัตต์โดยตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท ภายในปีหน้า
ในส่วนของธุรกิจผลิตหลอดและอุปกรณ์ไฟฟ้า ภายหลังบริษัทได้จับมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นรุกธุรกิจหลอดไฟฆ่าเชื้อทุกชนิดแล้ว กระแสตอบรับค่อนข้างดี โดยหลอดไฟฆ่าเชื้อดังกล่าวไม่ได้เจาะกลุ่มเฉพาะเจาะจงพืชกัญชงและกัญชาเท่านั้น แต่สามารถฆ่าเชื้อโรคในพืชการเกษตรได้ทุกชนิด ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ปีละประมาณ 20 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินพื้นฐานหุ้น TMI โดยธุรกิจผลิตหลอดและอุปกรณ์ไฟฟ้า คาดว่าจะยังคงสร้างรายได้และกำไรให้ต่อเนื่อง อีกทั้งการจับมือกับญี่ปุ่นรุกหลอดไฟฆ่าเชื้อในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นรายแรกของไทย ในระยะยาวคาดว่าจะสร้างรายได้ให้เป็นจำนวนมาก
ส่วนธุรกิจพลังงานนั้น ประเมินว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของบริษัท เพราะจะสามารถ COD แห่งที่ 3 ได้สำเร็จและคาดว่าจะผลักดันให้ไตรมาส 1/2565 รับรู้รายได้และกำไรได้เต็มจำนวนของโครงการดังกล่าว ดังนั้นประเมินรายได้ปี 2565 ของ TMI ไว้ที่ระดับ 800-900 ล้านบาท ส่วนงบไตรมาส 4/2654 คาดจะพลิกทำกำไรได้แน่นอน ส่วนทั้งปี 64 คาดว่าจะออกมาเป็นบวกเช่นกัน ดังนั้นประเมินราคาเหมาะสมเบื้องต้นของปี 2565 ไว้ที่ระดับ 3 บาท แนะนำ “ซื้อ”
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp