บมจ.สหโมเสคอุตสาหกรรม หรือ UMI โดย นายสมบูรณ์ อุรานุกูล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 64 ยังฟื้นตัวได้ดี หลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในภาคอสังหาและก่อสร้าง ที่สามารถกลับมาเดินหน้าโครงการก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ บวกกับการเปิดบริการห้างโมเดิร์นเทรด และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ส่งผลให้ยอดขายของ UMI ในทุกๆ ช่องทางฟื้นสตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ด้านนางสาว รติรัตน์ เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร UMI กล่าวว่า ภาพรวมรายได้ปี 2564 คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 6-7% เทียบกับปี 2563 ที่บริษัทมีรายได้จำนวน 2,340.58 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 6-7% ซึ่งบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าผลประกอบการโดยรวมจะพลิกกลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะบริษัทได้วางแผนธุรกิจเพิ่มพอร์ตและช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยอดขายในประเทศ ลาว กัมพูชา และ พม่าก็มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ทั้งนี้ ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า UMI ได้ปรับแผนการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมาทำตลาด ซึ่งสามารถบริหารต้นทุนได้ดีกว่าการผลิตเอง จึงเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางด้านราคากับคู่แข่ง โดยคาดว่าในปี 2565 สัดส่วนการนำเข้ากระเบื้องจะได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 30% หรือคิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 12-13% โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากอินเดียและเวียดนาม เพื่อให้มีสินค้ารองรับได้ทุกกลุ่ม เพราะกระเบื้องบางชนิดหากผลิตเองจะมีต้นทุนสูงกว่าการนำเข้า
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าผลประกอบการของ UMI มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกได้ โดยปี 2565 จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 3 บาท
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp