มิติหุ้น – นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เปิดเผยว่า ภาพรวมในปี 65 บริษัทคาดหวังยอดขาย รายได้ กำไร เติบโต 15% จากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย การเปิดประเทศ รวมถึงมาตรการ LTV สนับสนุน โดยบริษัทคาดยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งในปี 65 บริษัทเตรียมขยายโครงการเพิ่ม 30% หรือมีมูลค่าแตะระดับประมาณ 26,000 ล้านบาท จากปี 64 ที่เปิดตัว 18 โครงการ มูลค่ารวม 17,725 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ มีสินค้าคงคลัง (Inventory) ในส่วนของคอนโดมิเนียม 11,000 ล้านบาท บ้านจัดสรรรอการสร้าง 8,000 ล้านบาท
ลุยผนึกพันธมิตรแตกไลน์ธุรกิจต่อยอด
ทั้งนี้ ในปี 65 บริษัทยังคงมองหาการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อทำ JV เพิ่ม ทั้งในส่วนคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน มิกซ์ยูส บ้านจัดสรร ไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมกับพันธมิตร
สำหรับธุรกิจใหม่อื่นๆ ของบริษัททั้งการออกโทเคนหรือ Digital Access ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมงานให้สามารถพร้อมใช้ กับกลุ่มสินค้าและบริการอื่นๆ ในกลุ่ม เช่น การออกโทเคนให้กลุ่มลูกค้าซื้อบ้าน เพื่อสามารถนำไปใช้การตกแต่งบ้านเพิ่มเติม เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถเปิดใช้ได้ในช่วงม.ค.65
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์มีด้าน Medical Supplies เข้ามา จากการลงทุนกิจการร่วมทุน (JV) ในบริษัท Thai Leaf โดยมุ่งเป้าหมายปลูกและสกัดน้ำมันกัญชง ทำ Pharmaceutical Grade เพื่อผลิตภัณฑ์ทั้งสกินแคร์ เครื่องดื่ม ยา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2/65
ธุรกิจโลจิสติกส์เซ็นเตอร์ ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ก่อตั้งบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด (ALPHA) มีแผนปีนี้จะทำ 6 หมื่นตารางเมตร อย่างไรก็ตามคาดว่าปิดปีจะสามารถทำได้ 1.5 แสนตารางเมตร และมีเป้า 5 ปีจะทำให้ได้ 1 ล้านตารางเมตร โดยในปี 67 ตั้งเป้าจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้
ด้านธุรกิจ PROMINENT ASSET MANAGEMENT อยู่ระหว่างขอไลเซ่นส์ ส่วน PROMINENT CAPITAL และPRIM INSURANCE BROKER ยังดำเนินการได้ดีเพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจโซลาร์ และแก๊ซ LNG มีความคืบหน้าด้วยเช่นกัน
โบรกฯ คาดกำไรปี 65 ทำนิวไฮ
บล.เคทีบีเอสที ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ORI ให้ราคาเป้าหมายที่ 15 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรในปี 65 จะอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% โดยกำไรดังกล่าวเป็นสถิติสูงสุดใหม่ จากยอดโอนคอนโดใหม่ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแนวราบที่จะเติบโตโดดเด่นตามการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น รวมทั้งจะเริ่มรับรู้กำไรจากธุรกิจใหม่ healthcare, logistics, AMC, insurance broker และ energyซึ่งกำไรอาจมี upside ได้อีกราว 200 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปี 2564 นี้คาดว่าจะมีกำไรที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ไตรมาส 4/64 จะอยู่ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาส 3/64 จากยอดโอนที่ฟื้นตัว
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
