บล.เอเชีย เวลท์ ประเมิน SET มีโอกาสพักตัว จาก Valuation ที่จำกัด คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,655-1,680 จุด โดยความเสี่ยงที่ต้องติดตามจาก (1) การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่ (2) การไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบอายุสามารถขายได้ (ผู้ซื้อ LTF ในปี 2559 จะเริ่มขายได้ตั้งแต่ปี 2565 โดยในปี 2559 มียอดซื้อรวม 6 หมื่นล้านบาท) (3) การคาดหมายผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่ย่ำแย่ ในช่วง 4Q64 และ (4) ปัญหาการค้าโลก
กลยุทธ์การลงทุน เน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestics Play โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัว กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสุนน EV Car ของภาครัฐฯ ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้า ตาม Core Investment ที่ฝ่ายวิจัยาแนะนำ
วันนี้ (5 ม.ค.) ติดตามรายงานการประชุม FOMC Minutes (รอบ 14 ถึง 15 ธ.ค. 2564) ที่มีการส่งสัญญาณเร่ง QE Tapering ตามคาด และปรับท่าทีเป็น hawkish มากขึ้นในการส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย และการประชุม ศปก. ศบค. จะมีการประเมินสถานการณ์ และข้อเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ วันที่ 7 ม.ค.
กลยุทธ์การลงทุน 1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัว เลือก BEM SPRC BEC ONEE BJC CRC CPALL OSP CBG MAKRO HMPRO CRC KBANK AWC LH SC และ ORI
2. กลุ่มที่ราคาหุ้น Laggard มีผลประกอบการหนุน เลือก WHA BANPU SELIC IHL KTC TASCO KTB และ BBL
3. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้า เลือก WHA และ AMATA
4. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการใช้ 5G ที่เพิ่มขึ้น เลือก ADVANC
สำหรับหุ้นแนะนำปัจจัยทางเทคนิค เลือก SAT แนวต้าน 23.90/24.70 แนวรับ 22.30/21.50 Stop loss 21.20 บาท
M แนวต้าน 54.00/55.25 แนวรับ 51.50/50.25 Stop loss 49.50 บาท
และ TIDLOR แนวต้าน 38.75/40.00 แนวรับ 36.75/35.75 Stop loss 35.00 บาท
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
