มิติหุ้น- บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่า SET Index ปิดช่วงเช้า 1,658.10 จุด ที่ระดับ -2.17จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่น ลบ. เช่นเดียวกับดัชนี MSCI Asia Pacific X Japan -0.10% กังวลแนวโน้มอาจสูงขึ้น อาจส่งผลให้เฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงรอผลการประชุมเฟดวันที่ 25 – 26 ม.ค. ว่าจะการพิจารณาแนวทางการลดงบดุลของเฟด (QT) หรือไม่ ส่งผลให้ US.Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Growth เช่น เทคโนโลยี
ขณะที่ WTI Futures เช้านี้ +1.12% อยู่ที่ $85.78/บาร์เรล หลังกลุ่มกบฏฮูตีโจมตีรถส่งน้ำมันใน UAE และท่อส่งน้ำมันของตุรกีมีปัญหา ซึ่งเป็นเส้นทางส่งออกน้ำมันของอิรักผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 2 ในกลุ่มโอเปก ราคาน้ำมันสูงขึ้นเป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อ โดยเย็นวันนี้ติดตามดัชนีเงินเฟ้ออังกฤษ ธ.ค. คาด +5.2% & พ.ย. +5.1% YoY เป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
สำหรับดัชนี SET เช้านี้ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.02% นำโดย PTTEP เป็นผู้ผลิตน้ำมัน & ก๊าซที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไร PTTEP Q4/64 ที่ 9.26 พัน ลบ. +266% YoY, -3%QoQ และคาดกำไรปี 65 +21% YoY ขณะที่กลุ่มปรับลดลงคือ บรรจุภัณฑ์, ธนาคารและไฟแนนท์ รอรายงานกำไรกลุ่มธนาคารในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ส่วนปัจจัยในประเทศ วันพรุ่งนี้ ศบค.เตรียมพิจารณาคลายมาตรควบคุมลงสู่ระดับ 3, เพิ่ม Sandbox 3 จังหวัดและเริ่ม Test & Go ใน ก.พ. หลังการระบาด Omicron อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ภาคบ่ายวางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,650 – 1,655 แนวต้าน 1,660 – 1,665 จุด
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
