มิติหุ้น – “บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL” หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ซึ่งเป็นผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์ความชำนาญมามากกว่า 50 ปี จากการพัฒนาโครงการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศมาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ โดยดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง 2.กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และ 3.ธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าเครื่องมือเครื่องจักร
ปลื้มยอดจองนักลงทุนล้นหลาม
ล่าสุด CIVIL ได้ทำการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 4.60 บาท แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ จำนวน 120 ล้านหุ้น ซึ่งนักลงทุนสถาบันมีความต้องการเป็นจำนวนมากกว่าที่เปิดให้จองซื้อหลายเท่า และนักลงทุนรายย่อย จำนวน 80 ล้านหุ้น โดยได้มีการเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ในวันที่ 19-21 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 27 มกราคมนี้
เปิดแผนการใช้เงินจากไอพีโอ
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้เพิ่มศักยภาพการบริหารโครงการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักร อุปกรณ์และเทคโนโลยีก่อสร้างในโครงการก่อสร้าง ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ต่อไป
มีมูลค่างานรอส่งมอบและรอเซ็นสัญญากว่า 1.68 หมื่นลบ.
ทั้งนี้ CIVIL มีการรับงานบริหารโครงการก่อสร้างที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ งานนิคมอุตสาหกรรมและงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยมีมูลค่าสัญญางานโครงการก่อสร้างที่รอส่งมอบ (Backlog) ณ สิ้นกันยายน 2564 รวมถึงโครงการที่เสนอราคาต่ำสุดถึง ณ สิ้นปี 2564 รวม 16,800 ล้านบาท เช่น โครงการทางหลวงหมายเลข 3901 สายคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก และช่วงสระบุรี-แก่งคอย โครงการท่าอากาศยานจังหวัดตรัง และโครงการคลองระบายน้ำและอาคารประกอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น
“เราพัฒนาขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่บริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยนำศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ CIVL ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว โดยใช้เทคโนโลยีและวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยช่วยบริหารโครงการและเพิ่มโอกาสเข้าบริหารงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากภาครัฐเพิ่มเติม ทั้งรูปแบบเข้าประมูลโครงการและจับมือพันธมิตรธุรกิจเพื่อร่วมบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หรือร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ช่วยสร้างความมั่นคงด้านกระแสเงินสดให้แก่การดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIVIL กล่าว
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
ขณะที่โครงสร้างรายได้ ณ งวด 9 เดือนของปี 64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,735.85 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 94.55% รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้าง 4.8% ที่เหลือเป็นรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ ส่วนฐานะทางการเงินมีทรัพย์สินของบริษัท 6,172.75 ล้านบาท หนี้สิน 5,243.14 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 929.61 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก
PE 16.80 เท่า ซึ่งเป็น PE ที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ หากจะดูถึงความน่าสนใจของราคาไอพีโอที่ 4.60 บาทของหุ้น CIVIL แล้วก็ยังถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เริ่มจากกำไรสุทธิต่อหุ้น (12 เดือนย้อนหลัง) เท่ากับ 0.27 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ประมาณ 16.80 เท่า ซึ่งถือว่าเป็น PE ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มนี้ด้วยกัน
ROE สูง
รวมทั้งยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหากดูจากอัตรากำไรสุทธิ งวด 9 เดือนปี 64 อยู่ที่ 4.56 % และมีอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น 0.27 บาท และยังมี Book Value ที่ 1.86 บาทต่อหุ้น จนทำให้มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ 27.82 % นอกจากนี้ยังมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40 % ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ
“ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นและอัตราการทำกำไรสุทธิในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ CIVIL ยังโดดเด่น ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของบริษัทในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 14.60 ในปี 2562 และร้อยละ 9.28 ในปี 2563 ส่วน 9 เดือนแรกปี 2564 มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 11.08 ตอกย้ำแนวทางการบริหารความหลากหลายโครงการ สร้างสมดุลระหว่างมูลค่าโครงการและผลตอบแทนและการจัดสรรทรัพยากรขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2562 อยู่ที่ 141 ล้านบาท และ 87 ล้านบาทในปี 2563 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 170 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.38 ร้อยละ 2.10 และร้อยละ 4.56 ตามลำดับ” นายโกวิท เนื่องสุข ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน CIVIL กล่าว
ซึ่งหากดูจากราคาไอพีโอ และ PE เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน รวมทั้งงานที่มีเข้ามาอย่างล้นหลามและความสามารถในการทำกำไรที่ดีเยี่ยม จึงไม่แปลกที่มีทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยแสดงความสนใจขนาดนี้!!
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้