เปิดจุดเด่นหุ้นน้องใหม่ CIVIL บิ๊กรับเหมาเด่นที่สุดในกลุ่ม

912

มิติหุ้น   –  “บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL” หุ้นน้องใหม่ไอพีโอ ซึ่งเป็นผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์ความชำนาญมามากกว่า 50 ปี จากการพัฒนาโครงการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศมาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ โดยดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง 2.กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และ 3.ธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าเครื่องมือเครื่องจักร

ปลื้มยอดจองนักลงทุนล้นหลาม

ล่าสุด CIVIL ได้ทำการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 4.60 บาท แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันและนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ จำนวน 120 ล้านหุ้น ซึ่งนักลงทุนสถาบันมีความต้องการเป็นจำนวนมากกว่าที่เปิดให้จองซื้อหลายเท่า และนักลงทุนรายย่อย จำนวน 80 ล้านหุ้น โดยได้มีการเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ในวันที่ 19-21 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 27 มกราคมนี้

เปิดแผนการใช้เงินจากไอพีโอ

บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้เพิ่มศักยภาพการบริหารโครงการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักร อุปกรณ์และเทคโนโลยีก่อสร้างในโครงการก่อสร้าง ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ต่อไป

มีมูลค่างานรอส่งมอบและรอเซ็นสัญญากว่า 1.68 หมื่นลบ.

ทั้งนี้ CIVIL มีการรับงานบริหารโครงการก่อสร้างที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ งานนิคมอุตสาหกรรมและงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยมีมูลค่าสัญญางานโครงการก่อสร้างที่รอส่งมอบ (Backlog) ณ สิ้นกันยายน 2564 รวมถึงโครงการที่เสนอราคาต่ำสุดถึง ณ สิ้นปี 2564 รวม 16,800 ล้านบาท เช่น โครงการทางหลวงหมายเลข 3901 สายคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก และช่วงสระบุรี-แก่งคอย โครงการท่าอากาศยานจังหวัดตรัง และโครงการคลองระบายน้ำและอาคารประกอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น

 

DCIM100MEDIADJI_0011.JPG

 

“เราพัฒนาขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่บริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยนำศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ CIVL ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว โดยใช้เทคโนโลยีและวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยช่วยบริหารโครงการและเพิ่มโอกาสเข้าบริหารงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากภาครัฐเพิ่มเติม ทั้งรูปแบบเข้าประมูลโครงการและจับมือพันธมิตรธุรกิจเพื่อร่วมบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หรือร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ช่วยสร้างความมั่นคงด้านกระแสเงินสดให้แก่การดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIVIL กล่าว

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ขณะที่โครงสร้างรายได้ ณ งวด 9 เดือนของปี 64 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,735.85 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 94.55% รายได้จากการขายวัสดุก่อสร้าง 4.8% ที่เหลือเป็นรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ ส่วนฐานะทางการเงินมีทรัพย์สินของบริษัท 6,172.75 ล้านบาท หนี้สิน 5,243.14 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 929.61 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก

DCIM100MEDIADJI_0271.JPG

PE 16.80 เท่า ซึ่งเป็น PE ที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ หากจะดูถึงความน่าสนใจของราคาไอพีโอที่ 4.60 บาทของหุ้น CIVIL แล้วก็ยังถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เริ่มจากกำไรสุทธิต่อหุ้น (12 เดือนย้อนหลัง) เท่ากับ 0.27 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ประมาณ 16.80 เท่า ซึ่งถือว่าเป็น PE ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มนี้ด้วยกัน 

ROE สูง

รวมทั้งยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหากดูจากอัตรากำไรสุทธิ งวด 9 เดือนปี 64 อยู่ที่ 4.56 % และมีอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น 0.27 บาท และยังมี Book Value ที่ 1.86 บาทต่อหุ้น จนทำให้มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ 27.82 % นอกจากนี้ยังมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40 % ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ

DCIM100MEDIADJI_0008.JPG

“ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นและอัตราการทำกำไรสุทธิในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ CIVIL ยังโดดเด่น ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของบริษัทในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 14.60 ในปี 2562 และร้อยละ 9.28 ในปี 2563 ส่วน 9 เดือนแรกปี 2564 มีอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 11.08 ตอกย้ำแนวทางการบริหารความหลากหลายโครงการ สร้างสมดุลระหว่างมูลค่าโครงการและผลตอบแทนและการจัดสรรทรัพยากรขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2562 อยู่ที่ 141 ล้านบาท และ 87 ล้านบาทในปี 2563 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 170 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.38 ร้อยละ 2.10 และร้อยละ 4.56 ตามลำดับ” นายโกวิท เนื่องสุข ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน CIVIL กล่าว

ซึ่งหากดูจากราคาไอพีโอ และ PE เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน รวมทั้งงานที่มีเข้ามาอย่างล้นหลามและความสามารถในการทำกำไรที่ดีเยี่ยม จึงไม่แปลกที่มีทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยแสดงความสนใจขนาดนี้!!

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp