มิติหุ้น- บล.คันทรี่ กรุ๊ป ประเมิน SET วันนี้แกว่งแดนลบ 1,630 –1,639 จุดตามจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดหุ้นภูมิภาค (Nikkei แกว่งลบ 1.25%) เชิงกลยุทธ์ระยะสั้นกลับมาเน้นหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อาทิ (CRC RS TTBSIS) ส่วนทยอยสะสมยังแนะ Laggard (BEM, BJC, CPALL, M, MAJOR, MINT) และธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK)
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (24ม.ค.65) ทางรัฐบาลได้อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจแบ่งออกเป็น (1) คนละครึ่ง Phase 4 วงเงิน 1,200 บาทต่อคนครอบคลุม 29 ล้านคนคิดเป็นวงเงินรวมกันที่ 3.48 หมื่นล้านบาท โดยเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 17 ก.พ. 22 –30 เม.ย. 22
อย่างไรก็ตามคาดผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือกำไรบริษัทจดทะเบียนจำกัดเนื่องจากเม็ดเงินมิได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ (16 ล้านล้านบาท) มอง Makro ได้ประโยชน์สูงสุด (2) เราไปเที่ยวด้วยกัน Phase 4 สนับสนุนอีกราว 2 ล้านสิทธิ์เริ่มตั้งแต่ ก.พ. 22 – ก.ค. 22 มองกลุ่มโรงแรมและสนามบินรับผลบวก (AOT, CENTEL, ERW, MINT) ด้านตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนผันผวนค่อนข้างแรงจากการที่เปิดตลาดปรับฐานแรงถึง 1,115 จุด (3.2%) ในช่วงเวลานั้นนักลงทุนวิตกกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตามพบว่าหลังจากนั้น Dow Jones พลิกฟื้นขึ้นมาปิดบวกได้ 99 จุด (0.29%) เนื่องจากมีนักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาช้อนซื้อหลังราคาหุ้นปรับฐานแรง พร้อมกับ Vix Index ที่ปรับตัวลงมาเช่นกัน (ช่วงแรกปรับขึ้นเยอะ) ด้าน 2 Y , 10Y USBond Yield ปรับตัวขึ้น (Risk On) บ่งชี้ถึงสภาวะที่นักลงทุนมิได้กังวลมากนักกับความกังวลระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยปัจจัยหลังจากนี้ได้แก่ FED ที่จะประชุมกันแล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นตลาดได้ประเมินไว้ว่าปี 22 FED จะขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ครั้งพร้อมกับเริ่มลดขนาดงบดุล (QT) ช่วงกลางปี 22 ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดก็ได้ปรับฐานลงมารอแล้ว ดังนั้นหากผลประชุมออกมาแล้วเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้ก็อาจเกิดแรงซื้อกลับได้ แต่ในทางกลับกันหากเข้มงวดกว่าที่ตลาดประเมินไว้ก็อาจปรับฐานลงได้ หรือหากไม่ส่งสัญญาณลดขนาดงบดุลประเมินตลาดมีโอกาสฟื้นตัวแรง
@mitihoonwealth