มิติหุ้น – นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายบริหารโครงการอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับโลก กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยว่า น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มในปีนี้จึงน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากการที่ภาครัฐมีการบริหารจัดการและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-โอไมคอน เป็นที่น่าพอใจ มีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับคนไทยระมัดระวังตัวและได้รับวัคซีนมากขึ้น ส่งผลดีต่อการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้ปี 2565 จะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูของธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการอย่างแท้จริง โดยภาครัฐได้ส่งมาตการการกระตุ้นและเร่งช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาใช้ระบบเทสต์ แอนด์ โก เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ การขยายเวลาโครงการทัวร์เที่ยวไทย จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นเดือนพฤษภาคม 2565 และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการประเมินไว้ว่าในไตรมาส 1 นักท่องเที่ยวในประเทศอยู่ที่ 27.1 ล้านคน สร้างรายได้ 137,712 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศคาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 338,645 คน สร้างรายได้ 26,065 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงกลางปีและปลายปี
ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และบริการ ต้องเร่งปรับตัวจัดทัพให้พร้อม เพื่อรับกับการท่องเที่ยวที่จะทยอยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 จนถึงไฮซีซั่นในช่วงปลายปี โดย อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ได้มีการเดินหน้าเตรียมจัดงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 (Food & Hospitality Thailand 2022 : FHT2022) งานแสดงสินค้าสำคัญที่ครอบคลุมธุรกิจและอุตสาหกรรม ทั้งในกลุ่มอาหาร ท่องเที่ยว โรงแรม และบริการระดับพรีเมียมที่ใหญ่ระดับนานาชาติ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของการจัดงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานและผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากทั่วโลกก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด–19 มากถึงกว่า 32,000 คน ซึ่งการจัดงานฯ ในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้ร่วมงานได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มและเทรนด์ธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ เปิดประสบการณ์กับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่ช่วยในการพัฒนาธุรกิจ สินค้าและบริการระดับพรีเมียม ที่จะช่วยเสริมให้ธุรกิจสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
สำหรับกำหนดการจัดงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 นั้น จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2565 โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีแก่ทุกฝ่าย ทั้งพันธมิตรผู้ร่วมจัดงาน ผู้ร่วมจัดแสดงงาน และผู้เข้าร่วมชมงาน 3 ส่วนสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงในการจัดงานฯ ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การขยายขอบเขตการจัดงานจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ให้ครอบคลุมเพิ่มไปถึงกลุ่มธุรกิจบริการ อาทิ สายการบิน โลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ โรงพยาบาล สปา ฯลฯ การเพิ่ม 2 โซนจัดแสดงงานใหม่ คือ โซนธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ (Coffee & Bakery Thailand) โซนธุรกิจร้านอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar Thailand) และการย้ายสถานที่จัดงานไปที่ใหม่ใจกลางย่านธุรกิจที่สะดวกแก่การเดินทางและการเข้าชมงานมากขึ้นอย่าง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงยังมีการเพิ่มศักยภาพสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การจัดงานฯด้วย สลัดเพลท (Saladplate) ดิจิทัลแพลตฟอร์มธุรกิจบีทูบี (B2B) และตลาดกลางออนไลน์ขนาดใหญ่ สำหรับธุรกิจอาหารและการบริการ โดยมีฐานข้อมูลจาก 26 โชว์ จากการจัดงานฟู้ดแอนด์โฮเทลทั่วโลก ทำให้สามารถเชื่อมโยงได้กับคู่ค่าทั่วโลก
นอกจากจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจและผู้เข้าเยี่ยมชมงานแล้ว ยังเป็นโอกาสของผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการในกลุ่มวัตถุดิบอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ในร้านอาหารและธุรกิจบริการ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ – ซอฟต์แวร์ และผู้ให้บริการต่างๆ ที่เกียวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และบริการ ที่จะมาร่วมจัดแสดงงานเพราะสามารถพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนและเจรจาการค้ากับเจ้าของกิจการ นักธุรกิจ นักลงทุนตัวจริงได้โดยตรง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างพันธมิตร และสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศสนใจที่จะเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 จำนวนมาก โดยพื้นที่จัดงานครั้งนี้อยู่ที่10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการและหน่วยงานพันธมิตร พาวิลเลี่ยนจัดแสดงสินค้าจากนานาชาติ พื้นที่กิจกรรมการแข่งขัน การประกวด เวิร์คชอป การประชุมและสัมมนาให้ความรู้ ฯลฯ
