ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ท่ามกลางอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
+/- ราคาน้ำมันดิบทรงตัว จากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตามราคาได้รับแรงกดดันจากการรายงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแตะระดับ 7.5% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่าเขาต้องการให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1 ภายใน ก.ค. 65 เพื่อยับยั้งการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 329,000 บาร์เรล หรือคิดเป็น 1.5% ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมของโรงกลั่นในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 88.2 % นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค. 61 เป็นการสะท้อนถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
+ ในรายงานเดิอน ก.พ. ของกลุ่มโอเปก (OPEC) คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลกอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันของโลกจะเพิ่มขึ้น 4.15 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และจะแตะระดับ 100 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในไตรมาสสาม
ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นของ อินเดียและอินโดนีเซีย อีกทั้งน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 1.64 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งการส่งออกน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นที่ลดลงกว่า 9.5 % ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้