ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) เริ่มซื้อขาย 15 ก.พ. นี้

69

บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ประกอบกิจการคลังน้ำมันเชื้อเพลิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 15 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,435 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PTC”

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มทรัพยากร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PTC” ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565

PTC ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 17 ของพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 โดยมีบริการหลัก คือ รับ เก็บ และจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันมีคลังน้ำมัน 2 แห่ง ได้แก่ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่น มีถังเก็บน้ำมัน 10 ถัง ปริมาตรรวมประมาณ 9.0 ล้านลิตร มีความสามารถรับและจ่ายน้ำมันได้ปีละ 1,400 ล้านลิตรและ 1,400 ล้านลิตร ตามลำดับ และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ มีถังเก็บน้ำมัน 10 ถัง ปริมาตรรวมประมาณ 9.7 ล้านลิตร มีความสามารถรับและจ่ายน้ำมันได้ปีละ 830 ล้านลิตรและ 770 ล้านลิตร ตามลำดับ กลุ่มลูกค้าของ PTC แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 รายใหญ่ (ลูกค้าทางตรง) ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการหลัก คือ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) รายเดียว 2) สถานีบริการน้ำมัน (ลูกค้าทางอ้อม) กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ สถานีบริการน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนล่าง ทั้งนี้ บริษัทได้เพิ่มบริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตรที่ผู้ค้าน้ำมันต้องการที่คลังศรีสะเกษ ส่งผลให้บริษัทสามารถให้บริการแก่สถานีบริการน้ำมันภายใต้เครื่องหมายการค้าของผู้ค้าน้ำมันได้หลายราย

PTC มีทุนชำระแล้ว 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 300 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 110 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 105.61 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 4.39 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2565 ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 385 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,435 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 13.81 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564) ซึ่งเท่ากับ 103.93 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.25 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยบริการที่ตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และต้นทุนที่เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการรับ-จ่ายน้ำมัน โดยรองรับวิธีการโอนคลังที่หลากหลาย และเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัท สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ PTC มีโครงการก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า

PTC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวบูรพพัฒนพงศ์ ถือหุ้น 51.16% บริษัท ซีโฟร์ คอร์ปอเรชั่น (บริษัทย่อยถือหุ้น 100% โดย TAPAC) ถือหุ้น 16.83% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักเงินทุนสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp