สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 7-11 ก.พ. 65 และแนวโน้ม 14-18 ก.พ. 65

204

 

มิติหุ้น-ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 จากความกังวลต่อความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 65 นาย Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สนทนาทางโทรศัพท์กับนาย Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่การเจรจาไม่บรรลุผล โดยรัสเซียมีแผนซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงในวันที่ 10 – 20 ก.พ. 65 ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวว่ารัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ออกจากประเทศยูเครน รวมทั้งอิตาลี อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ได้แจ้งให้พลเมืองของตนออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนขานรับปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง โดย EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. 65 ลดลง 4.76 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 410 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 61
ด้านเทคนิค สัปดาห์นี้ราคา ICE Brent มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 94 – 97.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก- รายงานฉบับเดือน ก.พ. 65 ของ IEA คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2565 เพิ่มขึ้น 3.23 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 100.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อน 0.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Count) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ. 65 เพิ่มขึ้น 19 แท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 516 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้