DCC โดย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า DCC แจ้งกำไร Q4/64 ที่ 388 ลบ. เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนโดยความต้องการกระเบื้องปูพื้นที่อั้นช่วงโควิดระบาด การซ่อมแซมหลังน้ำท่วม และ การปรับขึ้นราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุน ทำให้ยอดขายโต 1,969 ลบ. หนุนทั้งปี 2564 กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,700 ล้านบาท เติบโต 7%
ประเมินทั้งปี 2565 ได้แรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมใหม่ กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย เพื่อทดแทนตลาดนำเข้า นอกจากนี้ในช่วงต้นปีได้ปรับราคาสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยมขึ้นอีก 4% หลังปีก่อนได้ปรับราคาขายเฉลี่ยขึ้น 5% บริษัทได้ตั้งงบลงทุนประมาณ 400 ลบ. เพื่อใช้สร้าง+ปรับปรุงสาขา 300 ล้านบาท และ โรงงาน 100 ล้านบาท
โดยการปรับปรุงสาขาจะขยายโชว์รูม และจะมีการเปิดร้านกาแฟ เพื่อเป็นจุดแวะพัก มีร้านวัสดุก่อสร้างครบวงจร เพื่อดึงคนเข้าตลาดนัดกระเบื้องมากขึ้น โดยปัจจุบันมี 204 สาขา คาดยอดขายจะเติบโตได้ 3.8% สู่ระดับ 8,719 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหารที่คาดจะเติบโต 5%-10% และ คาดกำไร 1,777 ลบ. เติบโต 5%
ทั้งนี้ DCC มีฐานะการเงินแข็งแกร่งสัดส่วนหนี้ต่อทุนต่ำเพียง 0.20 เท่า ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาส Q4/64 เท่ากับ 0.045 บาท รวมจ่ายปันผลกำไรปี 2564 เท่ากับ 0.185 บาทต่อหุ้น มีเงินปันผลตอบแทน 6.3% คงแนะนำ ซื้อลงทุน ประเมินราคาเป้าหมาย 3.50 บาท
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp