มิติหุ้น-บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ปี64 สามารถสร้างประวัติศาสตร์กำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 32 ปีสูงถึง 23,704.2 ล้านบาท เติบโต 64.4% จากปีก่อนกำไร 8.28 บาทต่อหุ้น และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 49.9%
รวมถึงสามารถสร้างสถิติใหม่ของรายได้ที่47,550.8 ล้านบาท เติบโต 55.6% เนื่องจากความต้องการในการบริโภคถุงมือยางที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคทั่วโลกจากการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้ราคาขายของถุงมือยางในตลาดโลกปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยในปี 64 บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์(SGX-ST) เมื่อเดือนพ.ค.64 ภายใต้ชื่อ “STG” โดยไม่มีการออกและเสนอขายหุ้นใหม่ ด้วยวัตถุประสงค์ในการขยายฐานผู้ถือหุ้นให้มีความหลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีช่องทางในการระดมทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งเป็นการสร้างชื่อเสียง และทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้นในภูมิภาค
อีกทั้งความสำเร็จในการขยายตลาดไปมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และได้ขยายฐานการจัดจำหน่ายถุงมือยางเพิ่มเติมไปยังประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศดังกล่าว รวมทั้งความสำเร็จในการเพิ่มสัดส่วนการขาย Sri Trang Brand จาก 20% ในปี 63 เป็น 28% ในปี 64 จากการยอมรับในเรื่องคุณภาพและความโดดเด่นด้าน ESG
ตลอดจนความสำเร็จในการขยายกำลังการผลิต ในการตั้งโรงงานแห่งใหม่ขึ้น 3 โรงงาน ได้แก่ โรงงานสาขาสุราษฎร์ธานี (SR2) ในไตรมาส 2/64 โรงงานสาขาสุราษฎร์ธานี (SR3) และโรงงานสาขาสะเดา พีเอส จ.สงขลา (PS) ในไตรมาส 3/64 ทำให้กำลังการผลิตของบริษัท เพิ่มขึ้นจาก 33,000 ล้านชิ้น ณ สิ้นปี 63 เป็น 40,300 ล้านชิ้น ณ สิ้นปี 64
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
