‘บริทาเนีย’ เปิดยุทธศาสตร์ปี 2022 ‘Growth Together’ รุกเปิด 12 โครงการใหม่ ผนึกพันธมิตรตอกย้ำผู้นำเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ตั้งเป้ารายได้ 7,250 ล้านบาท

69

มิติหุ้น  –  นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI
เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2565 คาดว่าจะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวและเติบโตได้ดี เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณบวกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลเริ่มเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การกระจายวัคซีนที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) เป็นการชั่วคราว สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกับสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องได้ 100% ของมูลค่าหลักประกัน ส่งผลดีต่อการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบ ตลอดจนแนวโน้ม GDP ปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 3 – 4% คาดว่าจะเห็นการพัฒนาโครงการกระจายตัวสู่พื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น จากการทยอยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ การขยายโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่ภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นโอกาสขยายทำเลเปิดโครงการใหม่ในจังหวัดหัวเมือง

แผนยุทธศาสตร์บริษัทฯ ปี 2565 จะมุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซปต์ ‘Growth Together’ ทั้งการขยายตลาดสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในจังหวัดภูมิภาคทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคกลางที่มีศักยภาพเติบโตสูง การร่วมทุนกับพันธมิตร (JV) การปรับตัวสู่ดิจิทัล แพลตฟอร์ม การพัฒนาระบบนิเวศน์ (Eco System) การให้คำแนะนำและสนับสนุน (Coaching & Support) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับทุกภาคส่วน ทั้งลูกค้า พันธมิตร พาร์ทเนอร์และพนักงานของบริษัทฯ ส่งต่อองค์ความรู้ที่จะเพิ่มศักยภาพและปรับตัวรับยุค Next Normal เพื่อร่วมมือกับทุกภาคส่วนเติบโตอย่างมั่นคง

“เราจะร่วมมือกับพันธมิตรตอกย้ำ ‘ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย’ โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต โดยการนำพลังงานทางเลือกเข้ามาใช้เพิ่มเติม ได้แก่ การพัฒนา Solar Roof Top (แผงหลังคาโซลาร์เซลล์) และ EV Charger (สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า) จะเริ่มนำร่องทดลองใช้พื้นที่ส่วนกลาง อาคารสโมสร ของบ้านภายใต้แบรนด์ ‘แกรนด์ บริทาเนีย’ เพื่อดูผลตอบรับก่อนขยายการติดตั้งไปยังพื้นที่หรือบ้านในแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้บริษัทฯ มีนโยบายการบริการหลังการขายแก่ลูกบ้านตลอดช่วงอายุการพักอาศัย (Long-Life Living After Sale Service) ครอบคลุมทั้งภายในและหลังระยะเวลาประกัน เช่น รับประกันคุณภาพโครงสร้างบ้าน 5 ปีนับจากวันที่โอนกรรมสิทธิ์, ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน, การแจ้งซ่อมและติดตามสถานะผ่าน Mobile Application Britania Connect” นางศุภลักษณ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีบ้านแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,250 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 ได้วางแผนเชิงรุกเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มเป็น 12 โครงการมูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท จากเดิมจะเปิดตัว 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,800 ล้านบาท ด้วยการรุกพัฒนาโครงการในจังหวัดหัวเมืองเพิ่มขึ้น เน้นจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ จำนวนประชากรและความต้องการที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตแก่คนในพื้นที่ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ ที่เปิดโครงการพื้นที่ดังกล่าว ภาคตะวันออกและภาคกลาง โดย 12 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 โครงการ และต่างจังหวัด 6 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ 2. บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 3. บริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 4. แกรนด์บริทาเนีย บางนา กม.35 5. บริทาเนีย อมตะ-พานทอง 6. แกรนด์บริทาเนีย คูคต 7. บริทาเนีย อุดร-ดุษฎี 8. บริทาเนีย ระยอง 9. บริทาเนีย
วงแหวน-ปิ่นเกล้า 10. บริทาเนีย ขอนแก่น 11. บริทาเนีย โฮม อยุธยา และ 12. บริทาเนีย ทาวน์ อยุธยา

จากแผนพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) ในปี 2565 ที่ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนที่มียอดขาย 8,300 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดรับรู้รายได้ 7,250 ล้านบาท โดยมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ ณ สิ้นปี 2564 แล้ว 1,204 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าแผนยุทธศาสตร์จะเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้วางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น การเจรจาล็อกราคาวัสดุก่อสร้างกับพันธมิตร, เพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็นต้น เพื่อลดผลกระทบจากการปรับราคาที่อยู่อาศัย

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานอำนวยการ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเทรนด์ความยั่งยืน ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองเทรนด์ดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงที่ยังมีการระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่บ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านแนวราบที่มีความปลอดภัย สุขอนามัยที่ดี ใช้ชีวิตสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังต้องออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด Universal Design เพื่อให้คนทุกวัยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัว เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป 20% ของประชากรทั้งหมด ถือว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้วในปีนี้

ทั้งนี้ การพัฒนาแบบบ้านใหม่ในปี 2022 บริษัทฯ ได้ศึกษาวิเคราะห์ความต้องของผู้อยู่อาศัย (Human Centric) และนำมาพัฒนาแบบบ้านรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการใช้พื้นที่ร่วมกันของสมาชิก ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งและต่อเชื่อมกัน (Open Space Plan) โดยออกแบบพื้นที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหน้าบ้าน (Pocket Garden) สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนที่ 4 รองรับผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นห้องทำงาน ส่วนห้องนอนชั้น 2 ทุกห้องจะมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในแบบฉบับ ‘บ้านบริทาเนีย’ เน้นการออกแบบทรงหน้าจั่ว English Gable เพื่อให้เกิดภาพจำและเสริมความโมเดิร์นรองรับความเป็นคนรุ่นใหม่

ล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ ‘Britania ขาลรับความสุข ปีใหม่ บ้านใหม่’ บ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่ 12 ทำเล ให้เริ่มต้นใช้ชีวิตในแบบที่รัก ให้กับลูกค้าที่สนใจบ้านบริทาเนียหรืออยู่ในการตัดสินใจได้มีตัวเลือกให้การซื้อบ้านมากขึ้น

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp