มิติหุ้น-บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือที่มีชื่อย่อว่า “พาย” (Pi) เผยวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้น Dow Jones ยังคงปรับฐานลงต่อเนื่องอีก 0.68% เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นป้องกันความเสี่ยงสงครามในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ล่าสุดมีรายงานออกมาว่ารัสเซียเตรียมจะบุกโจมตียูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและล่าสุดฝรั่งเศสได้ประกาศให้พลเมืองฝรั่งเศสที่อยู่ในยูเครนเดินทางออกมา
ดังนั้นสัปดาห์นี้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงเป็นปัจจัยที่คอยกระทบการลงทุนในกรณีที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ช่วงต้นสัปดาห์จึงเป็นไปได้ที่ SET INDEX มีโอกาสย่อตัวลงบ้างตามการปรับฐานลงวันศุกร์จากสหรัฐ ทั้งนี้ปัจจุบันรัสเซียเป็นผู้ส่งออกพลังงานอันดับต้นๆของโลกไม่ว่าจะเป็นน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ดังนั้นหากรัสเซีย – ยูเครนทำการเปิดฉากโจมตีกันจะส่งผลให้ราคาน้ำมันและแก๊สธรรมชาติพุ่งสูงขึ้นกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อโลกให้ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามมีหุ้นไทยได้ประโยชน์อย่าง (PTTEP)
ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ฝั่งต่างประเทศจะได้แก่ (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 56.2 (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐในวันพฤหัส Bloomberg คาดที่ 2.39 แสนตำแหน่ง ด้านในประเทศ (1) สถานการณ์ COVID-19 เริ่มดูน่าจับตาใกล้ชิดอีกครั้งหลังการติดเชื้อรายวันแตะเกือบ 1.9 หมื่นรายสูงสุดในรอบ 6 เดือนและด้านการเสียชีวิตก็เริ่มสูงขึ้นมาเช่นกัน (2) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q21 Bloomberg คาด SET 100 จะรายงานออกมาราว 40 บริษัท
(3) การรายงาน GDP 4Q21 ประเทศไทยในวันจันทร์ Bloomberg คาดที่ 0.7%YoY (4) การรายงานการค้าระหว่างประเทศไทยประจำเดือน ม.ค. 22 ในวันพุธ Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกและนำเข้าขยายตัว 18%YoY,23%YoY ตามลำดับ ดังนั้นจะเห็นว่าสัปดาห์นี้ปัจจัยค่อนข้างทรงตัวประกอบกับในวันศุกร์เริ่มเห็นการขายสุทธิออกมาของนักลงทุนต่างชาติจึงประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1685 – 1730 เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสัปดาห์แนะนำกลุ่มสื่อสาร (ADVANC DTAC TRUE) วันศุกร์ที่ผ่านมาทั้ง DTAC , TRUE ได้ประกาศสัดส่วนการแปลงเป็นหุ้นบริษัทใหม่ส่งผลให้กลุ่มสื่อสารจะเหลือผู้เล่นเพียง 2 รายการแข่งขันจะเบาบางลงบวกต่อกำไร ท่องเที่ยว (AOT MINT) วันที่ 28 ก.พ. เป็นวันแรกที่เปิดเส้นทางบินซาอุ – ไทยหลังจากนายกฯบินไปเชื่อมสัมพันธ์ช่วงปลาย ม.ค. 22 ทางภาคการท่องเที่ยวได้คาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวซาอุมาได้ราว 2 แสนคนสร้างรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและจะเพิ่มเป็น 5 แสนคนในอนาคต นอกจากนี้กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS BH) จะเป็นอีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการมีลูกค้าฝั่งตะวันออกกลางและซาอุก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนทยอยสะสมยังแนะ Wait & See
ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 269 บาท) คาดหลังจากนี้บริษัทจะมีการเติบโตเพิ่มเติมจากกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยคาดว่ากลุ่มข้างต้นจะมีสัดส่วนรายได้ต่อรายได้รวมราว 20% ภายในปี 2025 นอกจากนี้ยังคาดหวังรายได้ต่อหมาขเลขจะเติบโตขึ้นผลจากจำนวนลูกค้ากลุ่ม 5G ที่จะสูงขึ้น (ค่าใช้จ่ายต่อเบอร์สูงกว่า 4G)
MC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 12.8 บาท) คาดว่าผลประกอบการใน FY3Q22 จะยังเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมทั้งปี FY22 หลังจากคลายล็อกดาวน์และแผนการเปิดสาขาใหม่
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้