มิติหุ้น – คุณเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอลจำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า “สำหรับปี 2564 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,588.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.92% จากรายได้รวม 1,347.23 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 263.19 ล้านบาท ลดลง 20.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 26.39 ล้านบาท ลดลง 56.59% มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 27.62 ล้านบาท ลดลง 52.45% ถึงแม้บริษัทฯจะมีรายได้จากการให้บริการเป็นตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออก(Freight forwarder)และบริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อมาชดเชยรายได้จากกิจกรรมบริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ แต่เนื่องจากกิจกรรมการให้บริการเป็นตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออก(Freight forwarder)นั้น มีกำไรขั้นต้นที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากบริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในภาพรวมยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน สำหรับปี 2565 ทางบริษัทฯให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณขนส่งผ่านเรือพาณิชย์ระหว่างประเทศ และยังคาดว่าการบริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าและการให้บริการเป็นตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออก(Freight forwarder)ยังคงจะเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าบริษัทฯจะมีรายได้เติบโตจากปี 2564 ร้อยละ 10 ถึง 15
ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้จ่ายปันผล 0.025 บาทต่อหุ้น จากกำไรในส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี(BOI) โดยกำหนดวันปิดทะเบียนรายชื่อ (Record Date) ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2565 จ่ายปันผลในวันที่ 19พฤษภาคม 2565
คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เปิดเผยว่า “ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (PORT-W2) จำนวนไม่เกิน 151,799,977 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรร 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ PORT-W2 มีอายุ 12 เดือน และสามารถใช้สิทธิได้ทุกไตรมาส โดยอัตราการใช้สิทธิอยู่ที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการลงทุนในโครงการต่างๆ
พร้อมกันนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (PORT-W3) จำนวนไม่เกิน 151,799,977 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรร 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ PORT-W3 มีอายุ 18 เดือน และสามารถใช้สิทธิได้ทุกไตรมาส โดยอัตราการใช้สิทธิอยู่ที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ 3.30 บาทต่อหุ้น
โดยรวมจำนวนวอแรนต์ที่จัดสรรไม่เกิน 303,599,954 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงิน เพื่อให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการในอนาคต และสำรองไว้ใช้เป็นเงินหมุนเวียนเมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เป็นจำนวนไม่เกิน364,319,946 หุ้น ตามเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงิน เพิ่มความคล่องตัวให้กับกิจการ โดยจะพิจารณาการใช้เครื่อมือดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น
และกล่าวเสริมว่า “การจัดสรรวอร์แรนต์ให้ผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินเพื่อสนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทในการลงทุนโครงการในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นนำธุรกิจท่าเรือพาณิชย์และโลจิสติกส์ชั้นนำของไทยอย่างเต็มรูปแบบ และเพื่อพัฒนายกระดับการบริการโลจิสติกส์ของไทย ทั้งนี้ยังเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่มีความเชื่อมั่นในบริษัท โดยจะปิดทะเบียนรายชื่อ (Record Date) ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรวอแรนต์ในวันที่ 29 เมษายน 2565 พร้อมกับการจ่ายปันผล และบริษัทฯจะจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. ผ่านระบบออนไลน์ โดยกำหนดกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 (Record Date) เป็นวันที่ 11 มีนาคม 2565”
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือแห่งใหม่ที่ PORT ร่วมลงทุนกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผล และ บริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก ผ่านบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal : BRT) โครงการดังกล่าวจะให้บริการท่าเรือขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศ (feeder) ตั้งอยู่บนพื้นที่ว่า 45 ไร่ เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติ EIA แล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมให้บริการในปลายปี 2565 ส่วนโครงการศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย คาดว่าจะเปิดดำเนินการในต้นปี 2565 โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park : BLP) หากโครงการทั้ง 2 ได้เริ่มเปิดดำเนินการ บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย
บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบ วงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่ 1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2.ธุรกิจการให้บริการขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น
ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
https://lin.ee/cXAf0Dp