มิติหุ้น- บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ระบุว่า กำไรของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในไตรมาส 4/2564 ลดลง YoY และ QoQ ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ จาก GPM ที่ลดลงหลังต้นทุนด้านพลังงานและวัตถุดิบสูงขึ้น
เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนความกังวลของตลาดจากราคาถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว และคาดว่าแนวโน้มกำไรจะเป็นบวกในช่วงครึ่งแรกของปี 2565
คงมุมมองบวกต่อกลุ่มบรรจุภัณฑ์ และมองว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปแล้ว ราคาถ่านหินที่สูงจะยังคงเป็นอุปสรรค แต่น่าจะถูกชดเชยด้วยส่วนต่างราคาที่ดีขึ้น
ถึงแม้ราคาถ่านหินที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคในครึ่งปีแรก แต่เราเชื่อว่า GPM น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ส่วนต่างราคาที่ค่อนข้างต่ำในไตรมาส 3/2564 ได้ส่งผลกระทบต่อ GPM ในไตรมาส 4/2564 ดังนั้นเราจึงคาดว่าส่วนต่างราคาที่ดีในไตรมาส 4/2564 จะเป็นผลดีต่อกำไรในไตรมาส 1/2565
คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากเราเชื่อว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว กลุ่มบรรจุภัณฑ์กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวพร้อมกำไรที่มีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น QoQ เราชอบ SCGP มากกว่า UTP จากธุรกิจและภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย รวมถึงการเติบโตของกำไรที่น่าดึงดูดใจมากกว่า เราปรับลดราคาเป้าหมายของ SCGP ลงจาก 69 บาท เป็น 64 บาท (+0.5SD) และปรับราคาเป้าหมายของ UTP ลงจาก 19 บาท เป็น 18 บาท (ระดับเฉลี่ย) เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp