มิติหุ้น – นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) สตาร์ทอัปรายแรกของไทยที่ได้รับอนุญาตบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ให้บริการกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth เปิดเผยในไลฟ์ ‘ตำราพิชัยลงทุนให้ชนะสงคราม’ เคล็ดลับวิชารับมือกับตลาดหุ้น ในช่วงวิกฤตจากทุกสารทิศ ผ่านเฟสบุ๊ก Jitta Wealth เมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีนาคม 2565 ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญกับ ‘สงคราม’ ส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนขาลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ของปี ท่ามกลางปัจจัยลบที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น COVID-19 ที่ยังคงอยู่ ภาวะเงินเฟ้อเร่งตัว และเทรนด์การขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนมีความไม่มั่นใจกับการลงทุน และหลายครั้งที่จะต้องตัดขาดทุน หรือหลบเลี่ยงออกจากตลาดหุ้นไป
อย่างไรก็ตาม หากย้อนดูประวัติศาสตร์การลงทุนในตลาดหุ้น เห็นได้ชัดว่าข่าวลบ ความผันผวน และอารมณ์ของนักลงทุนส่วนใหญ่ เป็นสิ่งที่ต้องพบเจออยู่ตลอดเวลา จากข้อมูลการลงทุนย้อนหลังในดัชนี S&P500 ซึ่งเป็นการลงทุนใน 500 บริษัทของดัชนี หากแนวโน้มในอนาคตตลาดหุ้นยังเติบโตได้ การลงทุนในช่วง ‘สงคราม’ ก็เป็นเหมือนการลงทุนที่มีโอกาสชนะสูงมาก จะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดีมากกว่าช่วงก่อนสงคราม และผลตอบแทนในการลงทุนช่วงวันเริ่มต้นสงคราม จะให้ผลตอบแทนดีกว่าวันสิ้นสุดสงคราม ดังนั้นการรอลงทุนในช่วงสิ้นสุดสงครามอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเสมอไป
สำหรับกลยุทธ์การรับมือกับภาวะวิกฤตที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นนั้น ซีอีโอ จิตตะ เวลธ์ มองว่า นักลงทุนไม่ควรให้น้ำหนักกับกระแสข่าวรายวัน เพราะตลาดที่ปรับตัวลง นั่นคือโอกาส ควร ‘ตั้งสติ’ พิจารณาเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบตลาดอย่างรอบด้าน ซึ่งหากพบว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัยความเสี่ยงที่ไม่เป็นระบบ ควรปรับกลยุทธ์เน้นกระจายความเสี่ยง แต่หากมาจากความเสี่ยงที่เป็นระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยเหนือการควบคุม ควรตัดขายเฉพาะหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และไม่สามารถคาดการณ์การฟื้นตัวที่ชัดเจนได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง และสร้างโอกาสด้วยการเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดี ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะวิกฤตคือ โอกาสแสวงหาหุ้นดี ราคาเหมาะสม
“อย่างที่ Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนานของโลก กล่าวไว้ว่า การคาดเดาว่าฝนจะตกเมื่อไหร่นั้นไม่มีความหมาย แต่การสร้างเรือต่างหากที่ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ เปรียบได้กับการลงทุน คือการพยายามคาดเดาว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกี่ครั้ง ตลาดหุ้นจะตกไปเท่าไหร่ เศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ไม่ได้ส่งผลให้พอร์ตมีกำไรขึ้นมา แต่การสร้างพอร์ตที่แข็งแรง มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี สินทรัพย์ที่หลากหลาย มูลค่าพอร์ตโดยรวมก็จะไม่เสียหายมาก นักลงทุนก็จะชนะทุกวิกฤตได้”นายตราวุทธิ์ กล่าว
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้