มิติหุ้น-ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (28มี.ค.-1 เม.ย.65) คาดดัชนีจะยังมีความผันผวน ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะอาจจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกได้ ส่วนปัจจัยในประเทศจะได้รับอานิสงส์การทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
รวมถึงมีประเด็นบวกจากศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศแบบ Test & Go ซึ่งจะช่วยหนุน “หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว” แม้จะมีรายงานว่าอิสราเอลตรวจพบโรคติดเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ใหม่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมสายพันธุ์ย่อย BA.1 และสายพันธุ์ย่อย BA.2 ก็ตาม
คัด 5 หุ้นเด่นรับ Test & Go
โดย “คุณวิลาสินี บุญมาสูงทรง” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ GBS เผยว่า จากปัจจัยเชิงบวกข้างต้นจึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบผ่อนคลายมาตรการ Test&Go โดยผู้เดินทางเข้าประเทศไทยแบบ Test&Go ซึ่งได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในช่วง 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป
ปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ “ภาคการท่องเที่ยว” มีโอกาสกับมาคึกคักได้ ดังนั้นหุ้นที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยบวกดังกล่าวได้แก่ AOT, ERW, CENTEL, MINT และ AWC
AOT
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาด AOT ได้รับประเทศจากภาครัฐนำมาตรการ Test & Go กลับมาใช้อีกครั้ง ตั้งแต่ 1 ก.พ.65 สะท้อนถึงภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงคาดว่าการเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไปยังเดินหน้าต่อเนื่อง คาดสนับสนุนผลประกอบการใน 2H64/65 เริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 72 บาท
ERW
บล.เอเซียพลัส ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อภาคการท่องเที่ยวไทยปี 65 ทั้งจากการเริ่มเปิดประเทศ, การกระจายวัคซีน COVID-19 โดยข้อมูล Occupancy rate ของโรงแรม Ex Hop Inn, Hop Inn ไทย ช่วง ก.พ. เริ่มฟื้นตัวมาที่ 27% และ 68% จาก 24% และ 62% ตามลำดับ ช่วง ม.ค. ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ OMICRON ส่วนในปี 65-68 ยังเดินหน้าขยาย Hop Inn มากขึ้น คาดสิ้นปี 68 มี 100 แห่ง จากสิ้นปี 64 ที่ 47 แห่ง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.70 บาท ด้าน “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 4 บาท
CENTEL
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ปี 65 คาดสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายลง หนุนยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 12% ซึ่งจะทำให้ยอดขายของร้านอาหารในปีนี้ (1.14 หมื่นลบ.) คาดว่า CENTEL จะเพิ่มร้านอาหาร 200 แห่งในปีนี้ จากปี 64 ที่ 1,389 ร้าน ส่วน RevPar จะเพิ่มเป็นสองเท่าจากปีก่อน และแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกของ CENTEL ตั้งแต่ปี 65-69 จะช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 65 คาดกำไรสุทธิ 738 ล้านบาท และปี 67 ที่ 1.9 พันล้านบาท แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 44 บาท
MINT
บล.ทรีนีตี้ เผยผลงานในปี 65 จะสูงขึ้นในทุกไตรมาส หากไม่มีมาตรการ Lockdown และคาดว่าปี 65 จะสามารถพลิกทำกำไรได้ที่ 1.89 พันล้านบาท จากรายได้รวมที่ 9.68 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มเห็นความโดดเด่นของการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2/65 จากโรงแรมในต่างประเทศ ที่เริ่มกลับมาเดินทางและท่องเที่ยวตามปกติ แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 39.90 บาท
AWC
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เผยว่าปี 65 คาดจะสร้างกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง จากอัตราการเข้าพัก (Occupancy หรือ OCC) ของโรงแรมน่าจะเพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 64 เป็น 40- 50% นำโดยอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงแผนเร่งขยายธุรกิจเต็มกำลังจะยิ่งสนับสนุนให้ผลงานเติบโตได้มากขึ้นในอนาคต แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6 บาท
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
