“สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง”ผงาดนั่งประธานกรรมการ 7UP เปิดวิสัยทัศน์เดินหน้ารุกธุรกิจสาธารณูปโภคเต็มสูบ

59

มิติหุ้น – 7UP จัดทัพโครงสร้างองค์กร แต่งตั้ง  “สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” นั่งประธานกรรมการ มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2565 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์เดินหน้ายกระดับองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง มุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทฯผู้ให้บริการสาธารณูปโภค เน้นงานบำบัดน้ำ และจำหน่ายน้ำประปา ขณะที่ธุรกิจพลังงานไม่ทิ้งเดินหน้ารีแบรนด์ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการแข็งแกร่ง

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติแต่งตั้งนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการจัดทัพโครงสร้างองค์กรบริษัทฯครั้งสำคัญ

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่งว่า ที่ผ่านมามีส่วนร่วมเป็นเพียงผู้ถือหุ้น และนับเป็นครั้งแรกที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารกิจการ สาเหตุเข้าลงทุนเพราะเห็นว่า 7UP เป็นบริษัทฯมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการบริโภคในประเทศ ดังนั้นจึงไม่มีแนวคิดจะปรับนโยบายการลงทุน เพียงแต่จะเข้ามาเสริมให้การดำเนินธุรกิจและการลงทุนของ 7UP มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลักดันให้กลายเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน

“7UP เป็นบริษัทฯ ที่มีพัฒนาการในทิศทางที่ดีมาโดยตลอด จากที่เคยขาดทุน สามารถกลับมาเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไร และผลประกอบการงวดล่าสุดสามารถล้างผลขาดทุนสะสมที่เคยมีมาได้หมด สะท้อนให้เห็นว่าการรุกธุรกิจสาธารณูปโภคของบริษัทฯ ดำเนินมาถูกทาง เพียงแต่ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ยังไม่สมบูรณ์ และแม้ว่าขณะนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจะยังคงมีอยู่ แต่ประชาชนสามารถปรับตัวกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการหลังจากนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ประธานกรรมการบริษัทฯ กล่าว

ทางด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กล่าวเสริมว่า  ในส่วนของแผนธุรกิจในปี 2565 นี้ บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการประเมินภาพรวมของสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ความต้องการบริโภคเริ่มฟื้นตัว รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการเดินทางมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พลังงานน้ำมันและก๊าซแอลพีจีซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก มีแนวโน้มในทิศทางที่ดี

ในขณะที่ธุรกิจธุรกิจจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ผ่านการลงทุนในบริษัท โกลด์ ชอร์ส จะเริ่มรับรู้ผลบวกตั้งแต่ปี 2565 นี้ประกอบกับธุรกิจบำบัดน้ำให้กับฟาร์มกุ้งของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จำนวน 3 เฟส รวม 124,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันตามสัญญา และอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อดำเนินการขยายพื้นที่ให้บริการบำบัดน้ำต่อไป

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp