วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

131

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐฯ ประกาศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ มากที่สุดในประวัติการณ์

– ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ปริมาณ 180 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นปริมาณที่เทียบเท่ากับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในเวลาสองวัน และเป็นการระบายน้ำมันจาก SPR ที่มีปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจะระบายน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นเวลาหกเดือน นอกจากนี้ นายไบเดนยังกล่าวเสริมว่า ประเทศพันธมิตรยังสามารถระบายน้ำมันเพิ่มได้อีก 30 ล้านถึง 50 ล้านบาร์เรล
+ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่า การระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ  ไม่ได้คาดหวังว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมองว่าการแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวและไม่สามารถแก้ไขการขาดดุลอุปทานเชิงโครงสร้างได้ เนื่องจาก SPR ไม่ใช่แหล่งอุปทานที่คงอยู่ในปีถัดไป
+/- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) มีมติในที่ประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี ที่จะยังคงยึดข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่ 432,000 บาร์เรลต่อวันใน พ.ค. 65

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 785,000  บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกทั้งการส่งออกน้ำมันเบนซินของอินเดียและจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน เม.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการผลิตน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 0.9% อีกทั้งน้ำมันดีเซลคงคลังญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 2.3% แตะระดับ 7.92 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์
 
 
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp