สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 11 – 15 เม.ย. 65 และแนวโน้ม 18 – 22 เม.ย. 65

306
ตารางราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ [เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ]
  น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป
  เบรนท์
(ICE Brent)
เวสท์เท็กซัสฯ
(NYMEX WTI)
ดูไบ (Dubai) เบนซิน
ออกเทน  95
ดีเซล
ราคา 105.90 101.52 100.99 122.96 145.89
เปลี่ยนแปลง +2.18 +2.37 -0.27 -0.75 +2.86

ราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน

ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าในสัปดาห์ล่าสุดผันผวน โดยส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศลิเบีย หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติ National Oil Corp. (NOC) ประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบจากแหล่ง El Feel (90,000 บาร์เรลต่อวัน) และท่าส่งออก Zueitina (150,000 บาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากการประท้วง ทั้งนี้ลิเบียผลิตน้ำมันดิบในเดือน มี.ค.  65 อยู่ที่ระดับ 1.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 70,000 บาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตามประเทศสมาชิก International Energy Agency (IEA: 31 ประเทศ) ร่วมมือระบายน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ปริมาณรวม 240 ล้านบาร์เรล ในช่วง 6 เดือน หรือประมาณ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

            ให้จับตาจีน โดย Reuters คาดการณ์ว่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เมือง Shanghai ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 65 และธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศจะลดสัดส่วนสำรองเงินฝากขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio: RRR) ลง 0.25% มาอยู่ที่ 8.1% ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 65 โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจประมาณ 8.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • Interfax รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของรัสเซีย ในช่วง 1-15 เม.ย. 65 ลดลง 81,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับการผลิตในเดือน มี.ค. 65 มาอยู่ที่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • สหภาพยุโรป (EU: 27 ประเทศ) กำลังดำเนินการคว่ำบาตรด้านพลังงานรัสเซียเพิ่มเติม โดยผู้แทนระดับสูงด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง (High Representative of the Union for Foreign Affairs and Security Policy) นาย Josep Borrell แถลงว่า EU กำลังพิจารณาร่างมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งรวมถึงน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ที่จะเกิดขึ้น “ไม่ช้าก็เร็ว”

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) สาขา Chicago นาย Charles Evans ส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สู่ระดับ 2.25%-2.50% ภายในสิ้นปี 2565 นี้ จากปัจจุบันที่ 0.25%-0.50% โดยในการประชุมครั้งต่อไป (3-4 พ.ค. 65) คาดว่าจะมีวาระพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีก 0.50%
  • เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน (DXY Index) ทำให้น้ำมัน และรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อขายเป็นดอลลาร์ แพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น 
    @mitihoonwealth
    https://lin.ee/cXAf0Dp