“แม็คโคร” ปั้น ‘maknet’ แอปพลิเคชัน ศูนย์กลางตลาดค้าส่งออนไลน์เพื่อผู้ประกอบการ มุ่งสู่แพลตฟอร์ม B2B Marketplace อันดับ 1 ของไทย

36

มิติหุ้น  –   นายริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโครประเทศไทย เปิดเผยว่า ด้วยพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการที่หันไปสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม็คโครมีอัตราส่วนยอดขายผ่านช่องทาง Omni Channel เติบโตเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ประกอบกับภาพรวมของธุรกิจโฮเรก้าที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เข้ามาส่งเสริม เราจึงได้ทำการเปิดตัว ‘maknet’  B2B Marketplace เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในรูปแบบ End to End Solution โดยใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแม็คโครกว่า 32 ปี ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทางการค้าและผู้ผลิตรายย่อยหรือเอสเอ็มอี กว่า 5,000 ราย  ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ครบวงจรในราคาที่คุ้มค่า เราเชื่อมั่นว่า  ‘maknet’  จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารและการท่องเที่ยวรวมถึงเศรษฐกิจไทยโดยรวม และจะเป็น ‘New S-Curve’ ที่สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจแม็คโคร และก้าวสู่การเป็น B2B Marketplace อันดับ 1 ของประเทศได้อย่างแน่นอน 
ด้าน นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจดิจิทัล บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามุ่งมั่นในการพัฒนา ‘maknet’  ให้เป็นตลาดค้าส่งออนไลน์ที่เป็นศูนย์กลางให้ผู้ประกอบการโฮเรก้าได้เข้ามาซื้อขายและใช้บริการอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเริ่มเปิดธุรกิจ หรือต้องการขยายธุรกิจเพิ่มเติม ผ่านกลยุทธ์ End to End Solution

  • ครอบคลุมสินค้าที่หลากหลาย ครบทุกความต้องการ จบได้ในที่เดียว 
  • มีบริการอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการต้องการเพื่อทำธุรกิจแบบครบวงจร 
  • เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นสร้างความสะดวกและประสบการณ์ที่ดี ด้วยการส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ โดยผู้ซื้อสามารถกำหนดวันรับสินค้าได้ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลาย  

 “สำหรับแผนการพัฒนา ‘maknet’  B2B Marketplace  ในปี 2565 นี้ เราตั้งเป้าหมายฐานลูกค้า 50,000 รายภายในสิ้นปี และเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 รายภายใน ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบัน ‘maknet’ นำเสนอสินค้าและบริการมากกว่า 30,000 รายการ จากทั้งแม็คโคร ผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำ และผู้ผลิตสินค้ารายย่อยหรือเอสเอ็มอี ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าที่ผู้ประกอบการต้องการ อาทิ กลุ่มอาหารสด อาหารแห้ง บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์และบริการสำหรับธุรกิจโฮเรก้า โดยสิ้นปี 2565 คาดว่าจะขยายสินค้าและบริการเพิ่มเป็น 100,000 รายการ รวมถึงมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp