วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

103

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบที่จำกัดจากการคว่ำบาตร

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสหภาพยุโรป (EU) ยังคงพิจารณาและหาอุปทานด้านพลังงานจากแหล่งอื่นนอกจากรัสเซีย เพื่อโน้มน้าวประเทศเยอรมันและประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป  ในการร่วมคว่ำบาตรรัสเซียจากการบุกรุก หรือปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน โดยรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก
+ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียยังคงไม่สามารถกลับมาเปิดดำเนินงานผลิตน้ำมันดิบต่อได้ หลังประกาศเหตุสุดวิสัยที่บ่อน้ำมัน Al-Sharara เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเนื่องจากเหตุการประท้วงส่งผลให้ต้องระงับการผลิตน้ำมันดิบกว่า 0.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงไม่สามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงการประชุมของกลุ่มได้ โดยมีประเทศซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เป็นผู้ที่มีกำลังการผลิตสำรองสูงที่สุดของกลุ่ม ขณะที่น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.7 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน – ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินของเกาหลีใต้จะปรับตัวลดลงในเดือนหน้า จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ท่ามกลางน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงกว่า 768,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล – ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลในมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการกลับมาดำเนินงานของโรงกลั่นในประเทศ ท่ามกลางอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างเมือง
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp