EA ไฟเขียวจ่ายปันผลปี 64 อัตรา 0.30 บ./หุ้น พร้อมอนุมัติวงเงินหุ้นกู้ มูลค่า 2 หมื่นลบ. ลุยต่อยอดธุรกิจ EV หนุนผลงานปีนี้โตทะลุเป้า 20%

60

มิติหุ้น  –  นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) EA เปิดเผยว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯจัดสรรกำไรสุทธิและจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 โดยจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.30 (สามสิบสตางค์) ซึ่งจ่ายจากกำไรสะสมสำหรับกิจการที่ไม่ได้รับส่งเสริมการลงทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,119 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 41.89 %ของกำไรสุทธิ (งบเฉพาะกิจการ) ซึ่งได้กำหนดการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ดังกล่าวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
รวมทั้งที่ประชุมฯได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ (ใหม่ในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดชำระ ชำระเงินกู้เดิมของบริษัทฯ และใช้ในการดำเนินงานหรือเป็นเงินทุนและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
สำหรับในปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมาจากการเติบโตของธุรกิจ EV ทั้งในส่วนของ แบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล-พลังงานทดแทน วางเป้าหมายรักษาการเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กร จากการเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ EV แบบครบวงจร ซึ่งในปี 65 จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากที่ได้ทยอยลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีการลงทุนเพิ่มเติม โดยจะเน้นในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ล่าสุดเพื่อเป็นการต่อยอดการเติบโตอย่างมั่นคง ในการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าเพื่อป้อนเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนของประเทศ บริษัทฯ จึงได้เข้าไปซื้อกิจการของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีสัมปทานการเดินรถรวม 37 สาย สูงสุดกว่า 1,200 คัน ผ่านบริษัท อี ทรานสปอร์ต โฮลดิง จำกัด
กลุ่ม EA มีเป้าหมายนำรถโดยสารไฟฟ้าที่บริษัทฯ ผลิตได้เอง มาวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ ให้คนไทยได้ใช้รถโดยสารที่ทันสมัยและไร้มลพิษอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการลงทุนบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด จะทำให้มีธุรกิจต้นน้ำสู่ปลายน้ำ มีเครือข่ายรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เชื่อมต่อรถโดยสารไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้าของบริษัทตามนโยบายของรัฐบาลอย่างครบวงจร”นายอมรกล่าว
ปัจจุบัน EA มีโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าภายในประเทศที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต จนถึงการให้บริการดูแลซ่อมบำรุงหลังการขายที่ครบวงจร พร้อมทั้งมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตระยะเริ่มต้น กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพื่อป้อนให้กับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของบริษัท ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า MINE Bus เรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry และรถบรรทุกไฟฟ้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าไว้รองรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคโนโลยี Ultra Fast Charge ที่ทันสมัยที่สุดที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ที่มีชื่อว่า EA Anywhere โดยบริษัทฯ มุ่งหวังยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืนเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมไร้คาร์บอนอย่างจริงจัง
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp