“A5” เสริมศักยภาพฐานะการเงิน หลัง ttb อนุมัติสินเชื่อโครงการใหม่กว่า 1,140 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวบ้านหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ปลายปีนี้     

96


มิติหุ้น – “A5” ตอกย้ำความพร้อมด้านฐานะการเงินรองรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ หลังได้รับอนุมัติสินเชื่อโครงการวงเงิน 1,140.52 ล้านบาท จากทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เพื่อพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ โครงการใหม่บนทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ คาดพร้อมเปิดตัวปลายปีนี้ เฟสแรกพัฒนาเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ภายในปีนี้
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือ Memorandum Of Understanding (MOU) เพื่อรับการสนับสนุนสินเชื่อโครงการ (Project Finnace) จากทีเอ็มบีธนชาต (ttb) วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,140.52 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ก่อสร้างบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการใหม่บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ที่มีกำหนดเปิดตัวปลายปีนี้
โครงการดังกล่าวจะเป็นโปรเจ็กต์ระดับแฟล็กชิพต่อจากโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายบ้านเฟสสุดท้ายและได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าจะปิดการขายได้ในช่วงกลางปีนี้ ปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติสินเชื่อโครงการครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในบริษัทฯ และศักยภาพของโครงการจากสถาบันการเงินดังกล่าว  เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนรองรับการแผนพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการใหม่
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโครงการใหม่ 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 3,200 ล้านบาท ได้แก่ บ้านจัดสรรระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ 1 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และบ้านจัดสรรจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางในจังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทฯ พัฒนาบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแล้ว 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
“จากผลตอบรับที่ดีของโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ ทำให้เราตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในเฟสแรกจะพัฒนาเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อสามารถโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ทันภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเราได้ศึกษาข้อมูลความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อนำมาใช้วางแผนออกแบบและพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์นิชมาร์เก็ต” นายศุภโชค กล่าว
 
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp