บลจ.ยูโอบี แนะจัดพอร์ตการลงทุนด้วยตราสารหนี้ทั่วโลก รับความผันผวนกับ PIMCO Income Strategy

54

มิติหุ้น – นายเอสเตบาน เบอบาโน่ Executive Vice President, Fixed Income Strategist, PIMCO ได้ให้มุมมองว่าในช่วง  6-12 เดือนต่อจากนี้ เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะยังคงขยายตัวต่อไปได้และคาดการณ์จะขยายตัวได้ 3% ในปี 2022 (ที่มา PIMCO cyclical outlook ณ มีนาคม 2022) อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกรวมทั้งธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่อาจต้องเผชิญกับภาวะ Stagflation จากปัจจัยหลัก 4 ส่วน ได้แก่ 1) ระดับราคาพลังงานและอาหารที่ปรับสูงขึ้น 2) ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดสภาวะชะงักงัน (Supply Chain Disruption) 3) ภาวะทางการเงินและสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้น 4) ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ลดลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูง ทั้งนี้ PIMCO เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนเกิดสงคราม โดยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ทั่วภูมิภาคยุโรป โดยปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2022 มาอยู่ที่ 5% และมีความเสี่ยงที่เร่งตัวขึ้นได้หากสงครามรัสเซียและยูเครน ยืดเยื้อยาวนานรวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นของมาตรการ Sanction  ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ส่งสัญญาณที่จะลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่ง PIMCO มองว่าเป็นการป้องกันผลกระทบรอบที่สองของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นและการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการเกิดเศรษฐกิจถดถอยมีเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นางอรพรรณ ตัณฑประศาสน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีมุมมองต่อสถานการณ์ตลาดนับจากต้นปีนี้เผชิญความผันผวนมากและยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนอยู่ บลจ.ยูโอบี มองว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องจากการผ่านพ้นช่วงการระบาดใหญ่ของ Covid-19 และหลายประเทศสามารถบริหารจัดการควบคุมการระบาดได้ดีและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความต้องการสินค้าบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการตึงตัวขึ้นของตลาดแรงงานส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับมุมมองของทาง PIMCO ในมุมของการลงทุน นักลงทุนควรกระจายการลงทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงจากสงคราม  และกระจายเงินลงทุนบางส่วนในตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นได้ ทาง บลจ.ยูโอบี แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (UGIS-A) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) เน้นลงทุนผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) บริหารจัดการโดย PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited  ผู้เชี่ยวชาญจัดการลงทุนระดับโลก กองทุนหลักมีเป้าหมายสร้างกระแสรายได้ในระดับสูงโดยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเน้นการบริหารลงทุนเชิงรุก มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน มีการกระจายไปยังตราสารหนี้ทั่วโลกที่หลากหลาย
นายเอสเตบาน เบอบาโน่ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุนของกองทุนหลัก โดยเน้นรักษาแนวทางที่สมดุลด้วยการกระจายความเสี่ยงและสภาพคล่องที่เพียงพอ ด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น พอร์ตการลงทุนยังคงวางไว้แบบตั้งรับ (Defensive) ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย นั่นคือ Duration ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และปัจจุบันค่อยๆ ทยอยปรับ Duration ขึ้นเล็กน้อย ผ่านการลงทุนใน Inflation Protected Bond เพื่อลดทอนความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้กองทุนมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภท รวมถึง ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ด้วย  ซึ่ง PIMCO มองว่าเป็นการลงทุนที่น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยปัจจัยพื้นฐานของตลาดบ้านในสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง และตราสารประเภทนี้จะได้รับประโยชน์จากราคาบ้านที่ปรับสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของตราสารเพิ่มขึ้น (จาก Loan to Value Ratio ที่อยู่ในระดับต่ำ) กองทุนมีการกระจายการลงทุนทั้งในส่วนของ Agency และ Non Agency MBS  ประมาณ 22% กระจายเน้นไปในบางกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ เช่น ตราสารภาคธนาคาร โดยเฉพาะในส่วนของ ธนาคารฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและไม่ผันผวนนักในช่วงที่ผ่านมา  ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ โดยรวมมีสัดส่วน 12% แต่จะเป็นการกระจายการลงทุนไปหลายประเทศ เพื่อลดทอนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศใดประเทศหนึ่ง และเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐฯ ของประเทศที่มีพื้นฐานที่ดี  ตราสารมีสภาพคล่องสูงและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ (ที่มา PIMCO ณ 31 มีนาคม 2022)
แม้ภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในต้นปีช่วงที่ผ่านมาจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักปรับตัวลดลง แต่ถ้าเทียบกับดัชนีเกณฑ์มาตรฐานและตลาดตราสารหนี้ในภาพรวมกองทุนมีการปรับลดลงที่น้อยกว่าพอสมควร โดยอัตราผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีจนถึง 31 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา กองทุน PIMCO GIS INCOME ปรับลดลง -4.51% ในขณะที่ Bloomberg US Aggregate Index และ US IG Credit Index ปรับลดลง -5.93% และ -7.42% ตามลำดับ* และด้วยความไม่แน่นอนทั้งในส่วนของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และภูมิศาสตร์การเมือง ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่จะยังคงดำเนินต่อไปตลอดปี 2022 อย่างไรก็ตาม Income Strategy เป็นกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นดังที่กล่าวข้างต้น และที่ผ่านมา แม้ช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับเพิ่มขึ้น พอร์ตการลงทุนจะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างตั้งรับ (Defensive) ด้วยเหตุนี้ ทาง PIMCO เองมองว่าความผันผวนที่เกิดขึ้นอาจสร้างโอกาสการลงทุนได้เช่นกัน
นางอรพรรณได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้น บลจ.ยูโอบี มองว่า การลงทุนในกองทุน UGIS-A หรือ UGIS-N เหมาะสมกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน  สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนมายังตราสารหนี้หรือกองทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ในขณะที่ความผันผวนไม่สูงนัก และในส่วนของ PIMCO เอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Active Manager ที่มีประสบการณ์การบริหารกองทุนตราสารหนี้โลกมาอย่างยาวนาน  สามารถบริหารกองทุนหลักในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวนอย่างมากหรือมี Market Shock เกิดขึ้น มักจะมีโอกาสการลงทุนสำหรับ Active Manager อย่าง PIMCO เสมอ ซึ่งเห็นได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนหลักสามารถสร้างผลตอบตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ และพอร์ตการลงทุนในปัจจุบันเองยังมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะสามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่าง Dynamic นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย Yield to Maturity ของกองทุนหลัก ที่ 6.45% และ Duration ที่ 2.55 ปี (ที่มา : PIMCO ณ 31 March 2022) สะท้อนถึงผลตอบแทนที่น่าสนใจ และพอร์ตที่พร้อมรับกับความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้จากนี้
 
 
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp