ผลประกอบการไตรมาส1/65 เริ่มทยอยประกาศออกมาแล้ว นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เริ่มประกาศออกมาเป็นกลุ่มแรกๆที่ส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด ทั้ง KKP SCB TTB KTB KBANK โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการตั้งสำรองที่ลดลงมาก ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ถึงแม้สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลงไปด้วย
กลุ่มแบงก์กำไรดีเกินคาด
แต่ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่ออกมาคงไม่สามารถเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯได้ว่างบ บจ.ส่วนใหญ่จะดีเช่นเดียวกับกลุ่มแบงก์ไม่ได้ เนื่องจากแต่บริษัทก็จะมีปัจจัยเฉพาะตัวที่ส่งผลทั้งในทางที่ดีและทางลบ ซึ่งปัจจัยที่เห็นกันล่าสุด ทั้งจากภาวะสงครามที่ยืดเยื้อในยูเครน-รัสเซีย และภาวะเงินบาทอ่อนค่า ราคาน้ำมันพุ่งสูง เป็นต้น
คาด 35 บจ.กำไรQ1ลด 23%
เช่นเดียวกับบทวิจัยของ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ได้มีการทำ Earning Preview มาทั้งหมดพบว่า 35 บริษัท มีกำไรรวมทั้งสิ้น 9.6 หมื่น ลบ. (ลดลง 8.4% QoQ, ลดลง 23% YoY)
นอกจากนี้ยังพบว่า 11 บจ.ที่มีกำไรลดลงมากที่สุดและลดลงทั้ง QoQ และ YoY คือ PTTEP SCGP SCCC SCC TASCO CPF PTTGC TMT IRPC STA และ STGT
โดยหากลงรายละเอียดเป็นรายหุ้นพบว่า หลักๆกำไรถูกกดดันจาก หุ้นอิงกับราคา Commodity อาทิ หุ้นปิโตรฯ ถูกกดดันจาก Spread ลดลง หุ้นน้ำมันถูกกดันจากการ hedging รวมถึง หุ้นถุงมือมือยางกำไรลดลงจากหลักหมื่นลบ. เหลือระดับ 1 พันลบ. อย่างไรก็ตามยังเห็นกลุ่มอิงหุ้นเปิดเมืองยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง
กำไร Q1ที่ชะลอกระทบดัชนีหุ้นไทย
อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังพบว่าการที่ฝ่ายวิจัยได้มีบทสรุปเบื้องต้นถึงแนวโน้มกำไร บจ.งวด Q1/65 มีโอกาสชะลอตัวลง ยังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อไปได้ยากในระยะถัดไป
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
