บล.เมย์แบงก์ สแกนหุ้นเด่น “TOP-ERW”

96

มิติหุ้น – บล.เมย์แบงก์ สแกนหุ้นเด่น “TOP-ERW”

วันนี้คาด SET ย่อตัว ในกรอบแนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,645 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks วันนี้ แนะนำ “TOP, ERW”

 

TOP

คาดกำไร 1Q65 ขยายตัวแข็งแกร่งทั้ง QoQ และ YoY แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นจาก 5.4 เหรียญใน 4Q64 มาเป็น 6.8 เหรียญใน 1Q65 และแนวโน้มค่าการกลั่นยังคงปรับขึ้นต่อใน 2Q65 จากทั้งส่วนต่างผลิตภัณฑ์ทั้ง gasoline diesel และ jet ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 63 บาท

 

ERW

แนวโน้มผลประกอบการปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 64 ที่ขาดทุดราว 2 พันล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากสัญญาณการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตเด่นตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ผสานกับภาพระยะสั้น เดือนมิถุนายน เริ่มเห็นการจัด event ต่างๆในโรงแรมในกรุงเทพมากขึ้น คาดเป็นบวกต่อ ERW ที่มีสัดส่วนโรงแรมกรุงเทพสูง

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.0 บาท

 

INVESTMENT THEME

-แม้แรงงาน US ยังอยู่ในเกณฑ์ดี : วันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนเมษายน ขยายตัว 4.28 แสนตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.8 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 3.6% ต่ำสุดในรอบ 26 เดือน และค่าจ้างรายชั่วโมง ปรับเพิ่มขึ้น +0.3%MoM, +5.5%YoY จากตัวเลขทั้งหมดบ่งชี้ภาคแรงงานสหรัฐฯยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

-แต่ตลาดยังกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว : แนวโน้มระยะสั้นตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงโดนปัจจัยกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสชะลอตัว ทั้งจากประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งนำไปสู่การโจมตี และการดำเนินนโยบายการแบนพลังงานจากรัสเซียที่มากขึ้น ส่งผลให้ราคาพลังงานต่างๆ ทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซ และถ่านหินยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งมีโอกาสส่งผลเชิงลบต่อภาคการผลิตและขนส่งในช่วงถัดไป ผสานกับการระบาดของ COVID-19 ที่ยึดเยื้อ ส่งผลให้หลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ดำเนินนโยบายที่เข้มงวดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ชะลอ ปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ตลาดมีความกังวลต่อธนาคารกลางต่างๆ ที่จะดำเนินนโยบายที่เข้มข้นขึ้น เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มากกว่าคาด รวมทั้งการดึงสภาพคล่องออกจากระบบผ่านมาตรการ QT จึงทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ยังแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นเด่นสู่ระดับ 3.12% เพิ่มแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง ดังนั้นจึงแนะระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ให้มากยิ่งขึ้น

 

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อตัว กังวลดอกเบี้ยสหรัฐฯจะเร่งตัวมากกว่าที่ประธาน FED คาดไว้ โดย SET ปิดที่ 1,629.58 (-13.72 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 7.2 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.7 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 528 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 485 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติ Short Index Future  29,104 สัญญา)

 

EYES ON

9 พ.ค. ดุลการค้าจีน, ตัวเลขส่งออกจีน

10 พ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย

11 พ.ค. US CPI, สต๊อกน้ำมันดิบ US รายสัปดาห์

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp