“โกลเบล็ก” คัด 7 หุ้นเด่นอานิสงส์ค่าบาทอ่อน-ส่งออกพุ่ง

230

มิติหุ้น   –  นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นว่า มีโอกาสปรับ Sideway Down โดยยังมีปัจจัยลบรุมเร้าจากความวิตกกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อและสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนเม.ย.ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ แม้ว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%

ส่วนจีนมีการรายงานยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3.9%YoY  ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 14.7% เป็นผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ  จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,560-1,620 จุด

ทั้งนี้ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ การประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.),  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม การประกาศงบไตรมาส 1/2565 วันสุดท้าย (17 พ.ค.) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565 (18 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. สหรัฐ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนและตัวเลขส่งออกเดือนเมษายนออกมาดี  ได้แก่ TWPC, ASIAN, XO, SNC, SKN, PIMO และ SMT

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำยังเจอแรงกดดันจากตลาดกลับมากังวลว่าเฟดจะควบคุมตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นได้จนต้องใช้ยาแรงด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในการประชุมเดือน มิ.ย. ความกังวลดังกล่าวนี้หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถเบรคทะลุแนวต้านที่ระดับ 3.0% ได้ ดัชนีดอลลาร์รีบาวด์กลับบริเวณ 103.55 ทองคำถูกกดดันอีกครั้งหลุดแนวรับบริเวณ 1,875$/oz ส่วน SPDR เริ่มต้นเดือนนี้ไม่ดีนักมีการเทขายออกมาแล้ว 9.57 ตัน

โดยในสัปดาห์นี้ต้องจับตาดูเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ถึงแม้จะมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงสะท้อนผ่านราคาน้ำมันดิบเดือนเมษายนที่แกว่งตัวต่ำกว่าเดือนมีนาคมเหลือ 105 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่เงินเฟ้อเดือนเมษายนถูกคาดการณ์ไว้ที่ 8.1% หากตัวเลขจริงออกมามากกว่าอาจเป็นแรงหนุนทองคำในระยะสั้นได้ แต่หากตัวเลขจริงออกมาน้อยกว่าคาดการณ์อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะถัดไป

ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าโมเมนตัมทองคำเริ่มถูกกดดันอีกครั้งด้วยนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่ทั้งตลาดเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่สภาวะถดถอย มุมมองทองคำเป็นลบ กรอบการซื้อขาย 1,850-1,920$/oz หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,920$/oz ให้ทยอยเทขายทำกำไร

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp