SAK โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 1/65 พอร์ตสินเชื่อโตสุดแกร่ง หนุนกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท เติบโต 40% ชูแผนผู้นำให้บริการสินเชื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากฐาน เคียงข้างประชาชนรับภาวะเงินเฟ้อ

74

มิติหุ้น – บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 1/2565 พอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 9,047 ล้านบาท เติบโต 33% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท เติบโต 40% ตอกย้ำผู้นำให้บริการสินเชื่อที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากยั่งยืน หนุนประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ หลังเปิดสาขาใหม่ครบตามเป้าหมาย พร้อมบริหารควบคุมหนี้ NPLs อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง ด้านผู้บริหาร SAK ประกาศมุ่งเคียงข้างประชาชนรับภาวะเงินเฟ้อกระทบต่อต้นทุนดำเนินการทางธุรกิจสูงขึ้น มั่นใจทั้งปีพอร์ตสินเชื่อแตะกว่า
11,300 ล้านบาท

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ ‘ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565  (มกราคม – มีนาคม 2565) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการมุ่งมั่นเพิ่มขีดศักยภาพการให้บริการ โดยขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพให้กับประชาชน ช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 9,047 ล้านบาท เติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 6,811 ล้านบาท

ขณะที่กำไรสุทธิ 166 ล้านบาท เติบโต 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรอยู่ 118.6 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม สามารถควบคุมหนี้ NPLs ให้อยู่ในระดับ 2.3% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม อีกทั้งรายได้รวมจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมและบริการ 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนแผนธุรกิจในไตรมาส 2 บริษัทฯ มุ่งสู่ผู้นำให้บริการสินเชื่อที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากยั่งยืน
เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 60 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันตก จากแผนการขยายสาขา 210 แห่งในปี 2565 หรือรวมทั้งสิ้น 910 สาขา ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกเปิดครบ 90 สาขา และเตรียมเปิดให้บริการสินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร สอดรับกับฤดูกาลเพาะปลูกที่กำลังจะเริ่มขึ้นในปีนี้ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรนำเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนให้เกษตรกรไทยก้าวสู่เกษตรกรรม 4.0 เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตให้กับพืชผลทางการเกษตร

สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในไตรมาส 2 ประเมินว่าจะมีอัตราการเติบโตตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยความต้องการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชนเพื่อนำเงินไปลงทุนประกอบการอาชีพ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการประกอบอาชีพสูงขึ้นจากค่าน้ำมัน ราคาวัตถุดิบอาหาร ซึ่งบริษัทฯ มีความห่วงใยในภาวะดังกล่าว โดยพร้อมมอบสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ที่ต้องการเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพและหมุนเวียนในด้านต่างๆ  ภายใต้การปล่อยสินเชื่อยังพิจารณาอย่างรัดกุม เพื่อบริหารความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมั่นใจว่าแผนดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้จะผลักดันพอร์ตสินเชื่อทั้งปีได้ตามเป้าหมายแตะ 11,380 ล้านบาท

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp