KISS ประกาศซื้อหุ้นจำนวน 60% ของ O2KISS จากโอ ช้อปปิ้ง

83

มิติหุ้น  –  ‘บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ KISS ประกาศซื้อหุ้นในบริษัท O2KISS จำนวน 60% จาก โอ ช้อปปิ้ง เดินหน้าแผนบุกช่องทาง D2C สร้างช่องทางหลากหลายเข้าถึงผู้บริโภค รับเทรนด์ช้อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซบูม สืบเนื่องจากปีที่ผ่านมา แม้ตลาดในช่วงไตรมาส 1/65 ยังซบเซา จากปัจจัยความผันผวนของสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเป็นระลอกๆ บริษัทฯ ยังคงสร้างรายได้จากการให้บริการและขายสินค้า 169 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท ด้านผู้บริหารเดินหน้าแผนสร้าง New S-Curve เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หนุนผลการดำเนินงานพลิกฟื้นตามเป้า 

นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ผู้พัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rojukiss, PhDerma, Best Korea, และ Sis2Sis เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นของบริษัท โอทู คิส จำกัด หรือ O2KISS ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ KISS ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ โอ ช้อปปิ้ง ถือในสัดส่วน 60% โดยจะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจาก โอ ช้อปปิ้ง ภายในไตรมาส 2/2565 เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมกลุ่มความงามและสุขภาพ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

แผนการดำเนินงานของ O2KISS ต่อจากนี้ บริษัทฯ จะนำประสบการณ์และจุดแข็งด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในด้าน Health and Wellness พร้อมมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจในช่องทาง Direct-to-Consumer (D2C) ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce) แบบครบวงจร สอดรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าในยุคดิจิทัล โดยบริษัทฯ วางแผนนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ‘ชี่ (Qi)’ ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และผลิตภัณฑ์เวชสำอางบำรุงผิว  PhD K-Derma’ (พีเอชเคเดอร์มา) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยวางเป้าหมายก้าวสู่แพลตฟอร์มที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามที่หลากหลาย และครบวงจรมากขึ้น

“นับเป็นก้าวสำคัญของเราในการขยายช่องทาง D2C ครบทุกแพลตฟอร์มเพื่อส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ให้เข้าตรงถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานความแข็งแกร่งของ KISS ที่มีพอร์ตโฟลิโอสินค้าอยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม-แมส มีแบรนด์สินค้าชั้นนำและเป็นที่รู้จักทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss, เครื่องสำอาง Sis2Sis และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า Best Korea ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในพื้นที่ช่องทางออฟไลน์ อาทิ ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม KISS สร้างการเติบโตรับกับโอกาสของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพที่ฟื้นตัวขึ้น”  นางวรวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565  (มกราคม – มีนาคม 2565) ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายในการบริหารธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อกำลังซื้อสินค้าของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังสามารถทำรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 169 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) โดยช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงามเริ่มฟื้นตัวขึ้น ผลักดันให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ Rojukiss มีการเติบโตที่ดี

สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการส่งออกเท่ากับ 38.2 ล้านบาท ขยายตัว 64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตลาดที่สำคัญได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย ที่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นจากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดหลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์เซรั่ม Rojukiss รูปแบบซอง และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเจาะตลาดความงามด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นครั้งแรกในไตรมาสนี้อีกด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KISS กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจพื้นฐานให้มั่นคงพร้อมสร้าง New S-Curve ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ หลังจากที่บริษัทฯ เข้าลงทุนใน บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด (HIBC) โดยนำเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ (Health Tech) มาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ซึ่งเตรียมพร้อมรับกับ ยุค Future Ready  เพื่อต่อยอดจากแบรนดพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามที่ KISS มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยในกลุ่มดังกล่าว จะมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ Rojukiss  และ Best Korea  ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยตั้งระดับราคาสินค้าให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายและสอดรับกับกำลังซื้อ จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะสามารถกลับมาเติบโตได้ตามเป้า

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp