TMILL เร่งเครื่องปรับกลยุทธ์ ดันยอดขายโต15%

147

 

มิติหุ้น-บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) “TMILL”  โรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เผยไตรมาส 1/65 รายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลี โต 15.8% ปรับกลยุทธ์รักษาการเติบโต หลังต้นทุนข้าวสาลีพุ่ง มีกำไรสุทธิ 17.78 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาทเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.85 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท

นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) “TMILL” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส 1/2565  อยู่ที่ 454.51 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 389.70 ล้านบาท โดยที่รายได้จากการจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 15.8% และ0.8%

ทั้งนี้ถึงแม้ปริมาณจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีลดลง 14.1% และ 7.9% แต่ราคาจำหน่ายแป้งสาลีและรำข้าวสาลีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 38.4% และ 14.3% ตามลำดับ เนื่องจากราคาตลาดข้าวสาลีปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 และสูงมากขึ้นอีกตั้งแต่มีข่าวการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนในระหว่างไตรมาส 1/2565 นี้ จึงทำให้มีการปรับราคาจำหน่ายแป้งสาลีขึ้น และราคารำปรับสูงขึ้นจากปัญหาผลผลิตของสินค้าเกษตรในกลุ่มอาหารสัตว์ที่ลดลงทำให้มีความต้องการรำมากขึ้น

สำหรับกำไรไตรมาสแรกปีนี้  มีกำไรสุทธิ 17.78 ล้านบาท ลดลง 29.07 ล้านบาท คิดเป็น 62.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.85 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นทุนของข้าวสาลีที่ใช้ในไตรมาส 1/2565 นี้ ปรับสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1/2564 ถึง 54.4% ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจำหน่ายแป้งสาลี ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2565 ลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

แต่ถึงแม้บริษัทฯ จะเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้แบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นบางส่วนไว้ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อลูกค้าและผู้บริโภคปลายทางไม่ให้รุนแรงมากจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ก็ยังมีการปรับกลยุทธ์ทั้งด้านการผลิตและการจัดจำหน่าย เพื่อให้ยังคงความสามารถในการทำกำไรให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี  2565 นี้

ด้านการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาสแรกปี 2565 อยู่ที่ 69.24% ลดลง 10.45% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 79.69%  เนื่องจากลดปริมาณการจำหน่ายลงตามแผนปรับกลยุทธ์ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาข้าวสาลีปรับสูงขึ้น

สำหรับในปี 2565 นี้ เป็นปีที่ท้าทายความสามารถของฝ่ายบริหารอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะต้องพบกับสถานการณ์อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายบริหารและพนักงาน TMILL ทุกคน ยังคงตั้งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลงาน และสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านต่อไป

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp